‘รมว.พาณิชย์’ เกาะติดปมชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งช่วยผู้ประกอบการและเกษตรกร

“โฆษกกระทรวงพาณิชย์” เผย! “จตุพร” ห่วงผลกระทบชายแดนกัมพูชา เร่งช่วยเหลือสินค้าตกค้าง ระบุ! กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัด ระบายผ่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดสรรพื้นที่จำหน่ายและเชื่อมโยงผู้รับซื้อ ขายผลไม้กว่า 1 แสน กิโลกรัม มูลค่า 5.44 ล้านบาท ย้ำ! กระทรวงพาณิชย์จ่อจัดจุดจำหน่ายและงานแสดงสินค้าอีก 6 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียด ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานพาณิชย์จังหวัด (สพจ.) และ กรมการค้าภายใน ได้เร่งระบายสินค้าตกค้างที่ไม่สามารถส่งไปจำหน่ายยังกัมพูชา โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร โดยจัดสรรพื้นที่จำหน่ายและเชื่อมโยงผู้รับซื้อ ดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 36 ครั้ง ใน 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด และสุรินทร์ สามารถระบายผลไม้ได้ 110,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 5.44 ล้านบาท และ ระบายผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ เช่น ไก่พื้นเมือง เป็ด และนมสด ช่วยบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการ ผู้ค้ารายย่อย พี่น้องเกษตรกร และชาวบ้านในพื้นที่ได้ส่วนหนึ่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดจุดจำหน่ายและงานแสดงสินค้าอีกจำนวน 6 ครั้ง ในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ โดยมีกำหนดจัดที่ จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 8-13 ก.ค. 2568 ณ ห้างสุนีย์ ดำเนินการโดย สพจ.อุบลราชธานี, จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 14-20 และ 21-27 ก.ค. ณ ห้างเซ็นทรัล ดำเนินการโดย สพจ.ตราด และ สพจ.จันทบุรี ตามลำดับ รวมถึงที่ จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค. และ 1-3 ส.ค. ณ ห้างบิ๊กซี ดำเนินการโดย สพจ.ศรีสะเกษ

นอกจากนี้ รมว.พาณิชย์ยังได้สั่งการให้ดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้มีความทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในการประเมินสถานการณ์และดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจน การบริหารจัดการผลไม้โดย กรมการค้าภายใน ที่มีอยู่ด้วยกันหลายมาตรการ อาทิ จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ (Thai Fruits Festival 2025) ร่วมกับไปรษณีย์ไทยในการจัดส่งกล่องส่งผลไม้ฟรี และเปิดให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนสั่งซื้อผลไม้
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการอยู่ในขณะนี้แ ละได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเป็นความร่วมมือในการช่วยเหลือกัน ตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” ไม่ว่าจะใช้เวลามากน้อยเพียงใดในการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs และเกษตรกร ให้มีความเข้มแข็งและพร้อมปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และสามารถแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางการค้าและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการและเกษตรกร โดยเฉพาะในเรื่องการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นวัตกรรม และอัตลักษณ์ไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมโอกาสใหม่ให้มากยิ่งขึ้น.