พาณิชย์เคาะ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ดันเป้าขาย 9.5 แสนตันผลไม้ปี’68 – เร่งเจรจาจีนตรวจปล่อยผลไม้ไทยเร็วขึ้น

กระทรวงพาณิชย์ เคาะ 7 มาตรการ 25 แผนงาน จัดการผลไม้ ปี 2568 ดันเป้าหมาย 950,000 ตัน หวังหนุนราคาผลไม้ไทยดีทั้งปี สั่งเร่งเจรจาจีนลดเงื่อนไขตรวจเข้มผลไม้ไทย ปล่อยผ่านทุเรียนเร็วขึ้น ชงกระทรวงเกษตรกรฯรับเป็นแม่งานเจรจา เผย! ปีนี้ผลไม้หลักของไทยมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าทุกปี แต่จะผนึกหลายหน่วยงานรัฐ-เอกชนช่วยผลักดันทั้งในและต่างประเทศ ดึงห้างสรรพสินค้าช่วยรับซื้อมากขึ้น

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับภาครัฐและเอกชน ณ ห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ถึงแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ตามข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้เตรียมมาตรการรองรับปัญหาผลผลิต พร้อมส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศและขยายตลาดส่งออก โดยปีนี้คาดว่า ผลผลิตจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน ลำไย และมะม่วง จึงต้องเตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้เกษตรกรขายได้ราคาดีที่สุด  โดยกระทรวงพาณิชย์เดินหน้าจัดทำ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การตลาดในประเทศ การส่งออก ไปจนถึงการแปรรูปและอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยตั้งเป้าหมาย ระบายผลไม้ 950,000 ตัน เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา

ทั้งนี้ โดย 7 มาตรการหลักในการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ประกอบด้วย 1.มาตรการสร้างความเชื่อมั่นผลผลิต โดยเร่งตรวจรับรองมาตรฐาน GAP ตั้งศูนย์ “Set Zero” เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพผลไม้ไทย พร้อมตั้ง War room ผลักดันการส่งออก และตั้งชุดเฉพาะกิจเจรจากับจีน

2.มาตรการส่งเสริมตลาดในประเทศ เชื่อมโยงตลาดล่วงหน้า และกระจายสินค้านอกแหล่งผลิต สนับสนุนค่าบริหารจัดการผลไม้ รณรงค์บริโภคผลไม้และส่งเสริม GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) โหลดผลไม้ขึ้นเครื่องฟรี 20 กก. และจัด “บุฟเฟ่ต์ทุเรียน” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

3.มาตรการส่งเสริม การแปรรูปและปรับพื้นที่เกษตรให้เหมาะสม โดยเฉพาะผลไม้ที่อยู่ในช่วงกระจุกตัวสูง และมีการสนับสนุนการปลูกพืชสวนแทนพืชไร่

4.มาตรการส่งเสริมตลาดต่างประเทศ จัดมหกรรมค้าชายแดนและจับคู่ธุรกิจ ส่งเสริมการขายในต่างประเทศและร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ

5.มาตรการยกระดับสินค้าผลไม้ไทย ทำประชาสัมพันธ์เชิงรุก และใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เจรจาผ่อนปรนมาตรการทางการค้ากับประเทศคู่ค้า

6.มาตรการแก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกการค้า ผ่อนปรนการเคลื่อนย้ายแรงงาน และสนับสนุนการคัดแยก-ขนย้าย

7.มาตรการกฎหมาย กำหนดให้แสดงราคารับซื้อ ณ จุดรับซื้อทุกวัน เวลา 08.00 น. เข้มงวดการป้องกันและปราบปรามการฉวยโอกาสทางการค้า

อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้มีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม ทั้งผู้แทนเกษตรกร สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง โลจิสติกส์ และสถาบันการเงิน เพื่อร่วมกันผลักดันมาตรการเชิงรุกก่อนที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ และทูตพาณิชย์ เพื่อให้เกษตรกรขายผลไม้ได้ราคาสูงสุด ต้องใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร แม้ว่าผลไม้ไทยโดยเฉพาะทุเรียนที่ถูกด่านนำเข้าของทางการจีนที่มีการตรวจพบสาร BY2 ในทุเรียนส่งออกจีน จึงมีมาตรการเข้มงวดและตรวจสอบใช้เวลาตรวจปล่อยนานพอสมควร

นายพิชัย ย้ำว่า เรื่องนี้ตนและทางกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์กำลังหาทางเจรจาทางการจีนเพื่อให้ลดเงื่อนไขตรวจเข้มผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนให้ปล่อยผ่านเร็วขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์รับเป็นแม่งานเจรจาทำความเข้าใจทางการจีน และกระทรวงพาณิชย์พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำไปเจรจาให้เกิเดผลโดยเร็ว และได้จัดตั้ง “จันทบุรีโมเดล” เพื่อตรวจสอบคุณภาพทุเรียนตั้งแต่ต้นทาง พร้อมเตรียมหารือกับทูตจีนเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ด่านส่งออก เพื่อให้การส่งออกทุเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น

อย่างไรก็ตาม ยอมรับปีนี้ปริมาณผลไม้ไทยทั้งทุเรียน มะม่วงและลำไยมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าทุกปี แต่จะร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งในประเทศและทูตพาณิชย์ในต่างประเทศทั่วโลก ช่วยกันผลักดันผลไม้ไทยในประเทศต่างรวมถึงความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าในประเทศช่วยกันรับซื้อผลผลิตผบไม้ต่างๆ ให้มากขึ้น ซึ่งในปี 2568 คาดว่า ปริมาณผลผลิตผลไม้ 6.736 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.858 ล้านตัน (+15%) ทุเรียน คาดปริมาณผลผลิต 1.76 ล้านตัน (+37%) มะม่วง 1.3 ล้านตัน (+10%) โดยกระทรวงพาณิชย์จะยังเร่งส่งเสริมการส่งออกผ่าน 8 แผนงาน 32 กิจกรรม โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกไทย 96 บริษัท กับผู้นำเข้า 63 บริษัท จาก 19 ประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เร่งขยายตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่าน TopThai Store ในกว่า 10 แพลตฟอร์มทั่วเอเชีย และในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งรัฐบาลพร้อมเดินหน้าผลักดันให้ปี 2568 เป็น ปีทองของเกษตรกรให้ผลไม้ไทยขายได้ราคาดีทั้งในและต่างประเทศ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password