สภาอุตสาหกรรม ร่วมกันผลักดัน “เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์” เล็งดึงนักลงทุนต่างชาติหนุน

สภาอุตสาหกรรมภาคกลาง หนุนโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ “อลงกรณ์” เดินหน้าผลักดันต่อ เล็งดึงการลงทุนจากต่างประเทศขับเคลื่อน เน้นอุตสาหกรรมสีเขียวใช้เทคโนโลยีเมดอินไทยแลนด์

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือ ระหว่าง กระทรวงเกษตรฯ และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุม คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภาคกลาง โดยมี นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโสสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสุรชัย โสตถีรวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง ดร.เลิศจันฑา สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี และ เลขาธิการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง นายมานพ โตการค้า ผู้บริหารโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ รวมทั้ง สภาอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และ สระบุรี ฯลฯ.เข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมทะเล อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

นายอลงกรณ์ ได้แจ้งมติที่ประชุมสภาอุตสาหกรรมครั้งล่าสุด ที่เห็นชอบโครงการ เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ ซึ่งมีศักยภาพ ด้านคมนาคม การสื่อสาร ไฟฟ้า และ ระบบน้ำ โดยพื้นที่ดังกล่าว เคยเป็นโครงการสร้างเมืองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบริการ ปัจจุบันได้ปรับเป็นโครงการพัฒนาเกษตรกรรมและการแปรรูป พืช ประมงและปศุสัตว์ตามกฎหมายผังเมือง ถือเป็นหนึ่งในโครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเป็นโครงการเรือธง (Flagship Project) ของคณะกรรมการความร่วมมือระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในกลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และ สมุทรสาคร) โดยมีศูนย์ AIC และ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีให้การสนับสนุน จุดเด่น คือ การใช้เทคโนโลยีเกษตรเมดอินไทยแลนด์ เป็นอุตสาหกรรมสีเขียวและหวังว่าจะช่วยสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนและจังหวัดเพชรบุรีเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ โครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor: WEC) ตามนโยบายรัฐบาล จากการสร้างฐานการแปรรูปสินค้าเกษตรอาหาร กระจายการลงทุนใน 18 กลุ่มจังหวัด เพื่อการพัฒนาอย่างเท่าเทียมและยกระดับเกษตรแบบดั้งเดิมสู่เกษตรมูลค่าสูงตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นครัวโลก

นาย มานพ โตการค้า ผู้บริหารโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์ ได้รายงานความก้าวหน้า การพัฒนาโครงการ ประกอบด้วย

1.ศูนย์แสดงนวัตกรรมการเกษตร 70 ไร่ บริเวณด้านหน้าพื้นที่โครงการ เป็นศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตร และการเจรจาธุรกิจ ห้องประชุม และศูนย์วิจัยเทคโนโลยี PlatForm การเกษตร ก่อสร้างคืบหน้า 50%

2.การพัฒนาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแปลงปลูกข้าวโพด และหญ้าเนเปียร์ 12,000 ไร่ ปัจจุบันปลูกข้าวโพดและหญ้าเนเปียร์แล้ว 5,000 ไร่ เพื่อผลิตอาหารสัตว์ที่มีราคาถูก

3.การพัฒนาปศุสัตว์ในรูปแบบคอกโคกลาง 1,600 ไร่ เป็นคอกมาตรฐานมีน้ำสะอาด อาหารสัตว์ราคาถูก และการดูแลรักษาได้มาตรฐานช่วยลดต้นทุนการผลิต สามารถผลิตโคได้ปีละ 100,000 – 150,000 ตัว

4.การพัฒนาการประมงด้วยโครงการฟาร์มกุ้งระบบปิด 2,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลท่าไม้รวกและตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง ซึ่งได้รับอนุญาตจากประมงแล้ว โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการช่วยให้สามารถเพิ่มผลิตภาพการผลิตกุ้งอย่างมีคุณภาพ

5.เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร 1,000 ไร่ เป็นโซนพื้นที่รองรับการตั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตการเกษตร

6.เขตพัฒนาพลังงานสะอาด เช่นโครงการโซล่าฟาร์ม 4,000 ไร่ มีสายส่งขนาด 115KV ผ่าน ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้ว 900 ไร่ โดยบริษัทด้านโซล่าฟาร์มชั้นนำของประเทศ

สำหรับการประชุมสภาอุตสาหกรรมภาคกลางครั้งนี้ ยังได้ร่วมหารือ ประเด็นต่าง ๆ ทั้งในเรื่อง Platform การเพิ่มช่องทางการส่งเสริมการตลาดแบบ B2B การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) จัดทำข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบอุทกภัย และการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรับทราบความคืบหน้า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาค ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสมาคมธนาคารไทย (กกร.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ระหว่างสถาบันทั้ง 3 สถาบัน เป็นสถาบันหลักภาคเอกชนในการส่งเสริมการค้า การอุตสาหกรรม และการเงินของประเทศ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password