เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง เปิดโรงไฟฟ้า NRER อย่างเป็นทางการ

เน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง เปิดโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น ขนาดกำลังการผลิตสุทธิ 92 เมกะวัตต์ อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟผ. ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี

นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี บริษัทผลิตไฟฟ้าสิงคโปร์ที่มีฐานธุรกิจในอาเซียนและออสเตรเลีย และราช กรุ๊ป ได้จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง (NRER) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น NRER ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ขนาดกำลังการผลิตสุทธิ 92 เมกะวัตต์แห่งนี้สู่ความเป็นเลิศและผลิตไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งนี้ เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี และราช กรุ๊ป ได้ถือหุ้นร่วมกันในโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ในสัดส่วนร้อยละ 51 และ 49 ตามลำดับ

สำหรับโรงไฟฟ้า NRER เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ตามกำหนดเวลาและใช้งบประมาณก่อสร้างในวงเงินที่กำหนดไว้ ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากประสิทธิภาพการบริหารโครงการ โดยการก่อสร้างสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องไม่มีการหยุดชะงักแม้ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้า NRER กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี รวมทั้งให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม SSP ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีรุ่นล่าสุดของเครื่องกังหันก๊าซระบบความร้อนร่วมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลให้การใช้พลังงานลดน้อยลงและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

“บริษัทฯ มีความยินดีกับความสำเร็จของโครงการ และชื่นชมกับความทุ่มเททำงานของทีมงานทั้งสองฝ่ายที่ช่วยกันขับเคลื่อนโครงการจนแล้วเสร็จได้ตามกำหนดเวลาและงบประมาณที่วางไว้แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการระบาดของโควิด-19 ตลอดช่วงการก่อสร้าง บริษัทฯ เล็งเห็นว่า ความต้องการใช้พลังงานที่จะเพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทฯ และเน็กส์ซิฟ ขยายความร่วมมือทางธุรกิจกันต่อไป บริษัทฯ มุ่งหวังให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง”

ด้านมร. เซอร์เรนเดอร์ ซิงห์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี กล่าวว่า โครงการ NRER แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการทำงานกับพันธมิตรและการผสานความแข็งแกร่ง รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบไฟฟ้าที่สะอาดและเชื่อถือได้ให้กับลูกค้า การที่โรงไฟฟ้า NRER ใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าจึงมีความพร้อมที่จะใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเมื่อเชื้อเพลิงชนิดนี้มีจำหน่ายในประเทศไทย และเสริมด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัทด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ได้แก่ พลังงานน้ำ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน ทั้งนี้ เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ยังเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้พัฒนาโครงการที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าและนักลงทุนชั้นนำด้านพลังงานทดแทนที่มุ่งเน้นโซลูชั่นด้านพลังงานในภูมิภาคนี้ต่อไป

ด้านมร. แมธธิว บาร์ทลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการประเภทโคเจนเนอเรชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมไฟฟ้าลักษณะเดียวกัน เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าที่สะอาด เชื่อถือได้ และราคาที่เข้าถึงได้สำหรับลูกค้าในประเทศไทย บริษัทฯ ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพันธมิตรและคู่ค้าธุรกิจ ที่ทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วง และจะเดินหน้าขยายการเติบโตในภูมิภาคเอเชียและออสเตรเลียต่อไป”

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password