‘ราช กรุ๊ป’ เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า พลังงานลม ในออสเตรเลีย
ราช กรุ๊ป เผย โรงไฟฟ้าพลังงานลม 2 แห่งบรรลุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 10 ปี เสริมความมั่นคงของรายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 152 เมกะวัตต์พร้อมผลิตไฟฟ้าจำหน่ายในปี 2569
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“RAC”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในออสเตรเลียที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งจำนวน ได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับบริษัท ZEN Energy Retail Pty Limited ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย เพื่อจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ ในสัดส่วนร้อยละ 20.6 ของกำลังการผลิต และโรงไฟฟ้าพลังงานลมสตาร์ฟิช ฮิลล์ ร้อยละ 100 ของกำลังการผลิต เป็นระยะเวลา 10 ปี และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานลมคอลเล็กเตอร์ มีกำลังการผลิต 226.80 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ภายหลังธุรกรรมดังกล่าว โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะผลิตไฟฟ้าจำหน่ายให้กับผู้รับซื้อไฟฟ้าจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย Iberdrola Australia Energy Markets Pty Ltd. (ชื่อเดิม Infigen Energy) สัดส่วนร้อยละ 60, ALDI Foods Pty Ltd. ร้อยละ 19.4 และ ZEN Energy Retail Pty Limited ร้อยละ 20.6 ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลมสตาร์ฟิช ฮิลล์ มีกำลังการผลิต 33 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในเครือรัฐออสเตรเลียตอนใต้ มี ZEN Energy Retail Pty Limited เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าทั้งหมด
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ออสเตรเลียถือเป็นฐานธุรกิจด้านพลังงานทดแทนที่สำคัญของบริษัทฯ โดยมีบริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเป็นแกนหลักในการดำเนินงาน ปัจจุบันมีกำลังการผลิตพลังงานทดแทนเชิงพาณิชย์ รวม 887.69 เมกะวัตต์ การบรรลุข้อตกลงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยให้รายได้มีความแน่นอนมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้การผลิตของโรงไฟฟ้ามีความมั่นคงและช่วยรักษาประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
“RAC อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน กำลังการผลิตรวม 514 เมกะวัตต์ โดย บริษัทฯ มุ่งเน้นแสวงหาพันธมิตรที่จะรับซื้อไฟฟ้าเพื่อตอบสนองเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก และ/หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในรูปแบบของสัญญาระยะยาว ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิต 152 เมกะวัตต์ พร้อมระบบกักเก็บพลังงานรูปแบบแบตเตอรี่ ขนาด 81 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีความก้าวหน้าเป็นลำดับ โดยคาดหมายว่า การก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถผลิตไฟฟ้าจำหน่ายได้ในปี 2569 ซึ่งจะเสริมให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ มั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นางสาวชูศรี กล่าว