“OR” ส่งมอบรถโมบายสโตรคยูนิตให้บริการผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
“OR” ส่งมอบรถโมบายสโตรคยูนิตร่วมกับระบบปรึกษาทางไกลและการส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันแบบครบวงจรเพื่อให้บริการผู้ป่วยในจังหวัดระยอง
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีส่งมอบรถโมบายสโตรคยูนิตร่วมกับระบบปรึกษาทางไกลและการส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันแบบครบวงจร (Mobile Stroke Unit – Stroke One Stop) จาก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เพื่อให้บริการผู้ป่วยโรค หลอดเลือดสมองเฉียบพลันในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยมี นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ OR นายแพทย์มนู ศุกลสกุล สาธารณสุขนิเทศ เขตสุขภาพที่ 6 นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขระยอง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ณ อาคารเรียนรวมวิทยสิริเมธี สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) จ.ระยอง
นายสุชาติ เปิดเผยว่า โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันเป็นปัญหาสุขสภาวะที่สำคัญของประเทศไทย OR จึงได้จัดทำโครงการความร่วมมือบริการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันโดยหน่วยรักษาเคลื่อนที่ โดยสนับสนุนงบประมาณจำนวน 20 ล้านบาท ในการจัดทำรถหน่วยรักษาโรคหลอดเลือดสมองเคลื่อนที่ (Mobile Stroke Unit) ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ การบริการแพทย์ทางไกล (telemedicine) และระบบสื่อสารที่ทันสมัย เพื่อให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยระยะแรกจะจอดให้บริการที่โรงพยาบาลวังจันทร์ เพื่อขยายศักยภาพการเข้าถึงในพื้นที่ห่างไกล ช่วยลดระยะเวลาในการเข้าถึงระบบการรักษา และส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันได้อย่างทันท่วงที
และจะขยายพื้นที่ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันในรูปแบบหน่วยบริการเคลื่อนที่ในพื้นที่ พีทีที สเตชั่น วังจันทร์วัลเลย์ในระยะต่อไป ถือเป็นการต่อยอดการใช้พื้นที่ พีทีที สเตชั่น เป็นจุดจอดรถโมบายสโตรคยูนิต ซึ่งเป็นโครงการที่ OR ได้ดำเนินการแล้วก่อนหน้านี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และได้ขยายพื้นที่การให้บริการมายังจังหวัดระยอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ลดความพิการ ลดอัตราการเสียชีวิต ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งสร้างคุณค่าและให้ความสำคัญกับการดูแลผู้คน ชุมชน และสังคม อีกทั้งยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ OR คือ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป