หน.สร้างอนาคตไทยลั่น! ไม่ชู “ลุง” เป็นนายกฯ – เผยสื่อดังส่งหลายทีมข่าวร่วมงาน

เปิดตัวพรรค “สร้างอนาคตไทย” ขอเป็นอีกทางเลือกทางการเมือง พร้อมดัน “อุตตม” ขึ้นหัวหน้าฯคนแรก ชูจุดยืนไม่โกง-ไม่ปล้นชาติ! ย้ำไม่หนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯสมัยหน้า อ้างแนวทางพรรคเปิดกว้างดึงทุกกลุ่มและคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างอนาคตประเทศ เผย! สื่อดังหลายค่ายส่งทีมข่าวร่วมงานมากถึง 4 ทีม เชื่อ! เลือกตั้งใหม่ได้เข้าร่วมรัฐบาลแน่

การเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ที่ชื่อ “สร้างอนาคตไทย” เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 มกราคม 2565 ณ ห้อง World Ballroom ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนนับร้อยคน โดยมีแกนนำผู้ก่อตั้ง คือ นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเปิดตัวผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ ที่มาจากฟากการเมือง อดีตข้าราชการ ผู้บริหารหน่วยงานรัฐ แกนนำภาคธุรกิจเอกชน ภาคองค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาชน ฯลฯ มาร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน

แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคสร้างอนาคตไทย ยอมรับกับ “ทีมข่าวยุทธศาสตร์ออนไลน์” ว่า ในการพูดคุยภายในพรรคฯโดยเฉพาะแกนนำผู้ก่อตั้งฯ มีความเห็นร่วมกันที่จะเสนอให้นายอุตตมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ซึ่งจะเป็น 1 ใน 3 ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในโควต้าของพรรคฯ โดยที่เหลืออีก 2 คน หนึ่งในนั้นอาจเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี

กองทัพสื่อมวลชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานแถลงข่าว

ด้าน นายอุตตม กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนอยากเห็นสมการใหม่ทางการเมือง โดยจะขอเป็นพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริงเพื่อมาร่วมสร้างอนาคตของประเทศ และจะไม่ใช่ซ้ายสุดโต่ง หรือขวาสุดขั้ว และไม่โกง ไม่ปล้นชาติ ทั้งนี้ เท่าที่เฝ้าดูสถานการณ์ของประเทศขณะนี้ รู้สึกน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน รายได้ที่ตกต่ำสวนทางกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในมิติด้านสังคม เมื่อเศรษฐกิจสะดุดลง จะซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำให้สูงขึ้น บั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชนให้แย่ลง  

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ เสริมว่า พรรคฯจะทำงานบนอุดมการณ์และวิธีการเดียวกัน โดยจะเข้ามาแก้ปัญหาที่ประชาชนจมลึก จะต่อสู้กับสิ่งที่กัดกร่อนทำลายบ้านเมือง พรรคนี้ไม่ใช่ของใคร คนใดคนหนึ่ง เราเป็นเพียงคนที่มีประสบการณ์ ข้างหลังเรายังมีอีกมาก และตั้งใจว่า จะทำให้เป็นพรรคที่เชื่อมโยงจุดเปลี่ยนผ่าน เปิดกว้างกับคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เราจะสร้างพรรคเพื่อยึดโยงกับประชาชนแต่ไม่ได้สร้างพรรคเพื่อการเลือกตั้ง

ในช่วงตอบคำถาม นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ย้ำว่า พรรคมีแนวทางในการทำงาน และพร้อมจะทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่มีเป้าหมายที่จะวางรากฐานสำคัญให้กับอนาคตของประเทศ ยืนยันว่าพรรคฯไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นอะไหล่ให้กับพรรคการเมืองใด หรือสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของใคร โดยพรรคฯมีจุดยืนที่จะเสนอรายชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจำนวน 3 คน ซึ่งในนั้น คือ หัวหน้าพรรคฯ ที่รอให้คณะกรรมการบริหารพรรคฯพิจารณาสรรหา รวมถึงบุคคลที่มีความเหมาะสมที่เหลืออีก 2 คน ซึ่งอาจเป็น นายสมคิด เพราะท่านไม่เคยหลงลืมพวกเรา

“พรรคเรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจและปากท้อง ส่วนการสนับสนุนให้ใครขึ้นเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตี แน่นอนว่า พรรคไม่สนับสนุน พล.ประยุทธ์ จันทร์โอกาส อย่างแน่นอน” ว่าที่หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ย้ำ

ผู้สื่อข่าว “ทีมข่าวยุทธศาสตร์ออนไลน์” รายงานเพิ่มเติมว่า ในจำนวนกองทัพสื่อมวลชนที่เข้าร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้ พบว่า ค่ายเนชั่นและผู้จัดการ ส่งทีมข่าวมาร่วมทำข่าวและรายงานข่าวจากภาคสนามมากถึง 3-4 ทีมเป็นอย่างน้อย เนื่องจากช่วงที่ นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ยังเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์นั้น ได้ให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรมพิเศษของสื่อทั้ง 2 ค่ายเป็นอย่างดี รวมถึงสื่อกระแสหลักชั้นนำอื่นๆ จึงเป็นไปได้ว่าการส่งทีมข่าวมาร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทยเป็นจำนวนมาก อาจเพราะต้องการตอบแทนกลับคืน หรือไม่ก็เพราะต้องการวางรากฐานความสัมพันธ์ต่อกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเนื่องจากมีแนวโน้มสูงที่พรรคสร้างอนาคตไทยจะเข้าร่วมกับรัฐบาลขั้วต่างๆ ไม่ว่าฟากไหนจะเป็นแกนนำก็ตาม

สำหรับ การเปิดตัวผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “ขุนพลรุ่นที่ 1” นั้น ถือว่า คลาคล่ำไปด้วยคนคุณภาพจากหลากหลายสาขาอาชีพ หนึ่งในนั้น มีชื่อของ นายนิพฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย นายสุพล ฟองงาม และนายสันติ กีระนันท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ นอกจากนี้ ยังมีนักวิชาการ นักบริหาร เช่น ดร.กำพล ปัญญาโกเมศอดีตอธิการบดีนิด้า นายพงศ์พรหม ยามะรัต นักธุรกิจสายเทคโนโลยี อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ดร.วิรัช วิฑูรย์เธียร ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมจากธนาคารโลก นายบุญส่ง ชเลธร อดีตนักกิจกรรมยุคหลัง 14 ตุลาฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐสวัสดิการ และยังมีปราชญาชาวบ้าน เช่น นายแก้ว สังข์ชู นายศิวโรฒ จิตนิยม รวมถึง นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ อดีตผู้อำนวยกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติ เป็นต้น.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password