เอสซีจี แถลงผลประกอบการครึ่งแรกปี 65 การเงินแข็งแกร่ง เร่ง 5 กลยุทธ์ ฝ่ามรสุมวิกฤติซ้อนวิกฤติ

ผลประกอบการเอสซีจี ไตรมาส 2 ปี 2565 ยอดขายยังโตต่อเนื่องแม้กำไรกระทบจากต้นทุนพลังงาน การเงินแข็งแกร่ง ชู 5 กลยุทธ์ รับมือวิกฤติเศรษฐกิจโลก 1. รัดเข็มขัด ลดต้นทุน 2. ผลักดันนวัตกรรม 3.เพิ่มสภาพคล่องการเงิน 4.คุมเข้มลงทุนตามกลยุทธ์ 5.เร่ง ESG ดันนวัตกรรมรักษ์โลก เดินหน้าฝึกอาชีพ ลดเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้มั่นคง

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ทั่วโลกยังผันผวน เป็นภาวะวิกฤติซ้อนวิกฤติ ทั้งเงินเฟ้อ การขึ้นดอกเบี้ย ต้นทุนพลังงาน-วัตถุดิบเพิ่มสูง และภาวะโลกรวน (Climate Change) แต่เอสซีจีเร่งปรับตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจและสถานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง เร่งนวัตกรรมสินค้าและบริการ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้ฉลาก SCG Green Choice รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งด้านความปลอดภัย สะดวกสบาย รับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการจากการเปิดประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังพิจารณาการลงทุนอย่างเข้มงวด ชะลอโครงการใหม่ที่ไม่เร่งด่วน มุ่งโครงการที่สร้างผลตอบแทนเร็ว และเป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโตระยะยาว ทั้งโครงการปิโตรเคมีครบวงจร LSP ที่เวียดนาม และการลงทุนของ SCGP ในธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ ในเพอเธ่ (Peute) ผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ งบการเงินรวมก่อนสอบทานไตรมาสที่ 2 ปี 2565 มีรายได้จากการขาย 152,534 ล้านบาท ใกล้เคียงไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 14 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาด กำไร 9,937 ล้านบาท ลดลง 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบของธุรกิจเคมิคอลส์ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกรวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมของธุรกิจเคมิคอลส์ลดลง อย่างไรก็ตาม กำไรเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน จากเงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น

ผลประกอบการครึ่งปีแรกมีรายได้จากการขาย 305,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรในครึ่งแรกของปี 2565 เท่ากับ 18,781 ล้านบาท ลดลง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ครึ่งปีแรกของปี 2565 เอสซีจีมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services – HVA) 104,332 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของรายได้จากการขายรวม ทั้งนี้ ยังมีสัดส่วนของการพัฒนาสินค้าใหม่ (New Products Development – NPD) และ Service Solution คิดเป็น 17% และ 5% ของรายได้จากการขายรวม ตามลำดับนอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ในครึ่งปีแรกของปี 2565 ทั้งสิ้น 135,822 ล้านบาท คิดเป็น 45% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 แยกตามรายธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจเคมิคอลส์ หรือ SCGC มีรายได้จากการขาย 135,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น โดยมีกำไรสำหรับงวด 7,292 ล้านบาท ลดลง 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 103,771 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 3,976 ล้านบาท ลดลง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ครึ่งปีแรกของปี 2565 SCGP มีรายได้จากการขาย 74,616 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของทุกสายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

นายรุ่งโรจน์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันยังไม่แน่นอนสูง เอสซีจีติดตามใกล้ชิด และเร่งดำเนินการภายใต้ 5 กลยุทธ์ ประกอบด้วย 1.) ลดต้นทุนเพิ่มพลังงานทางเลือก 2.) พัฒนานวัตกรรม สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มใหม่ๆ ต่อเนื่อง 3.) เพิ่มสภาพคล่องการเงิน 4.) คุมเข้มการลงทุนตามกลยุทธ์อย่างรอบคอบ 5.)

เดินหน้า ESG ด้วยแนวทาง ESG 4 Plus

1.) ลดต้นทุน เพิ่มพลังงานทางเลือก ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ลดของเสียจากการดำเนินงาน และเร่งเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือก อาทิ เชื้อเพลิงชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ 16.4%

2.) พัฒนานวัตกรรม สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ ต่อเนื่อง ตลอดจนหาตลาดใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่าง เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน นวัตกรรมเคมีภัณฑ์ อาทิ นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ดี เช่น “SCG HVAC Air Scrubber” ระบบบำบัดอากาศเสีย พร้อมลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ อาคารขนาดใหญ่ ประหยัดค่าไฟได้ 20-30%“นวัตกรรมการก่อสร้าง ภายใต้แบรนด์ “CPAC Green Solution” มุ่งใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับโซลูชันการก่อสร้างใหม่ๆ อาทิ Gas Station Solution บริการออกแบบและก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันครบวงจร นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ อาทิ “เฟสท์ ชิลล์” บรรจุภัณฑ์อาหารทำจากกระดาษ เคลือบฟิล์มลอกออกได้ สะดวกต่อการรีไซเคิล ย่อยสลาย ดีไซน์แข็งแรงเหมาะกับการเดลิเวอรี

3.) เพิ่มสภาพคล่องการเงิน ด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ให้อยู่ในระดับเหมาะสมบริหารปริมาณสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ติดตามการให้สินเชื่อการค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงเสริมสภาพคล่องโดยการดำเนินการออกหุ้นกู้ ในรูปแบบ หุ้นกู้ดิจิทัล ของ SCGP ในวันที่ 1 สิงหาคม 2565

4.) คุมเข้มการลงทุนตามกลยุทธ์อย่างรอบคอบ ทบทวนการลงทุน ชะลอโครงการใหม่ที่ไม่เร่งด่วน หรือใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะได้ผลตอบแทน มุ่งโครงการที่ได้ผลตอบแทนเร็ว และสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจ อาทิ ขยายการลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์ (Packaging Materials Recycling Business) ใน Peute Recycling B.V.ผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลวัสดุบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์

5.) เดินหน้า ESG ด้วยแนวทาง ESG 4 Plus (มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ –ย้ำร่วมมือ ภายใต้ความเชื่อมั่น โปร่งใส) โดยในครึ่งปีแรกของปี 2565 มียอดขายนวัตกรรมรักษ์โลก ภายใต้ฉลาก SCG Green Choice เท่ากับ 153,240 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50 ของยอดขายรวม

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 ในอัตรา 6.0 บาทต่อหุ้น เป็นเงิน 7,200 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 กำหนดผู้ที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2565” นายรุ่งโรจน์สรุป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password