ราคาน้ำมันดิบทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ จากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯท่ามกลางความไม่สงบในยุโรปตะวันออก

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เผย บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 65-75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 67-77 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (18 – 24 ก.ค. 68)

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำเนื่องจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าจะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ความไม่สงบในยุโรปตะวันออก ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องเนื่องจากรัสเซียไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงมีอยู่เช่นเดียวกันเนื่องจากอิหร่านกล่าวจะไม่เจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ หากมีการรุกรานในอนาคต ขณะที่ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 68 เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยูโรโซน อินเดีย จีน และบราซิล

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้

• เศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน หลังมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ นาย Scott Bessent กล่าวว่าระยะเวลาผ่อนผันมาตรการกำแพงภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ต่อจีนจะสิ้นสุดลงวันที่ 12 ส.ค. 68

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ อาจขยายระยะเวลาผ่อนผันอีกรอบ หากการเจรจามีความคืบหน้า ทั้งนี้ สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงลดภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันชั่วคราวโดยสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจีนอยู่ที่ระดับ 55 % จากเดิม 145 % และจีนตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ อยู่ที่ 10% จากเดิม 125% นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย Donald Trump ประกาศว่าสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซีย โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินโดนีเซียในอัตรา 19% ลดลงจากแผนเดิมซึ่งประกาศในเดือน เม.ย. 68 ที่ระดับ 32% ขณะที่อินโดนีเซียจะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยไม่มีการเรียกเก็บภาษี

• สถานการณ์ความไม่สงบในยุโรปตะวันออกยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดประธานาธิบดีรัสเซีย นาย Vladimir Putin ไม่ตอบรับข้อเรียกร้องให้หยุดยิงจากสหรัฐฯ และยังคงเดินหน้าโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าต่อประเทศที่ซื้อสินค้าจากรัสเซีย 100% หากรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายใน 50 วัน หรือภายในวันที่ 2 ก.ย. 68 ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของรัสเซียในปี 2567 อยู่ที่ 4.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป และก๊าซธรรมชาติเป็นสินค้าส่งออกหลัก

• ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากโฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน นาย Esmaeil Baqaei ยืนยันว่าอิหร่านจะไม่กลับเข้าสู่การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ เว้นแต่จะมั่นใจว่าการเจรจาครั้งใหม่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน นาย Abbas Araghchi แสดงจุดยืนว่าอิหร่านต้องการหลักประกันว่าจะไม่ถูกรุกรานหรือโจมตีซ้ำในอนาคต จึงจะพิจารณากลับมาเจรจาอีกครั้ง

• ความต้องการใช้น้ำมันโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังรายงานฉบับเดือน มิ.ย. 68 ของ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลก ปี 68 เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว อยู่ที่ระดับ 105.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังปี 2568 อาจปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาด โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ ยูโรโซน รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดีย จีน และบราซิล และปี 2569 เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว อยู่ที่ระดับ 106.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

• ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านปัจจุบันเดือน มิ.ย. 68 ยอดขายบ้านใหม่ เดือน มิ.ย. 68 ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน เดือน ก.ค. 68 และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ค. 68 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. 68 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ค. 68 ยอจดทะเบียนรถยนต์ใหม่เดือน มิ.ย. 68 และดัชนีจัดการฝ่ายจัดซื้อเดือน ก.ค. 68

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (11 – 17 ก.ค. 68)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 67.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 69.26 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดกังวลผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุดสหภาพยุโรปเผยว่าสหรัฐฯ ขัดขวางความพยายามในการบรรลุข้อตกลงทางการค้า และเตือนว่าอาจตอบโต้ด้วยกำแพงภาษีนำเข้า หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ก่อนที่กำแพงภาษีนำเข้าสินค้าสู่สหรัฐฯ 30% จะมีผลในวันที่ 1 ส.ค. 68

อย่างไรก็ตาม นาย Trump ระบุว่ายังเปิดรับการเจรจาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ผู้แทนการค้าของสหภาพยุโรป ในการเจรจากับสหรัฐฯ นาย Maros Sefcovic กล่าวหลังการประชุมว่า อัตราภาษี 30% เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง และเผยว่าสหภาพยุโรป ได้เตรียมมาตรการตอบโต้ไว้แล้ว เช่น การตั้งภาษีสินค้าสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 2.45 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่เติบโต 5.2 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน มิ.ย. 68 เพิ่มขึ้น 6.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วทั้งนี้

รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมาย GDP ในปี 2568 อยู่ที่เติบโต 5.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานจีนนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Crude Throughput) ในเดือน มิ.ย. 68 เพิ่มขึ้น 8.7% เทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 15.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ ม.ค. 68 หลังโรงกลั่นทยอยกลับมาดำเนินการจากการปิดซ่อมบำรุง

นอกจากนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 11 ก.ค. 68 ปรับลดลง 3.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 422.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 0.55 ล้านบาร์เรล.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password