โลกอาหรับเฮ! ขานรับวิชั่น ‘ผู้นำไทย’ ปั้น ‘คลังอาหาร’ ป้อน! พร้อม ‘ผลิตสินค้า-เก็บรักษา-ส่งทันที 24 ชม.’

“พิชัย นริพทะพันธุ์ ขานรับวิสัยทัศน์นายกรัฐมนตรี ประกาศชูประเทศไทยขึ้นชั้นเป็น “คลังอาหาร” ของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เสริมความมั่นคงทางอาหารโลก (Food Security) ประกาศพร้อม ผลิตสินค้า-เก็บรักษา-ส่งทันที ตลอด 24 ชม. 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความสำเร็จที่ได้จาก การประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 หรือ ACD summit #3 ว่า นับเป็นความสำเร็จอย่างมาก หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงบทบาทผู้นำของประเทศไทยอย่างยอดเยี่ยม ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมข้อเสนอในภาวะความไม่สงบและมีความผันผวนในบริเวณกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้ จึงได้เสนอ แนวคิดความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) โดยประเทศไทยจะเสนอเป็นประเทศที่จะผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย อีกทั้งเก็บรักษาพร้อมส่งมอบให้กับกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางทันทีภายใน 24 ชม. หากมีความรุนแรงและความขาดแคลนในอาหารในกลุ่มประเทศดังกล่าว ซึ่งสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าประชาชนในกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางจะไม่ขาดแคลนอาหาร ทำให้ประเทศต่างๆ ให้ความสนใจอย่างมาก เช่น UAE,  Qatar, Kuwait, Oman เป็นต้น โดยประเทศไทยจะสามารถขายสินค้าเกษตร และ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานและเก็บรักษาในประเทศไทย พร้อมส่งมอบทันทีให้กับประเทศในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์​ สานต่อความร่วมมือด้านการสร้างคลังอาหารกับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางเพื่อรับมือกับความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ต่อไปให้สำเร็จ โดยตนได้มีโอกาสหารือกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศโอมาน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและส่งเสริมโอกาสความร่วมมือการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งแสดงความพร้อมของไทยในการผลิตอาหารที่มีคุณภาพเพื่อเป็นคลังอาหารให้แก่ทั้งสองประเทศ เสริมความมั่นคงทางอาหาร

อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้หารือกับ ดร.ธานี บินอาเหม็ด อัลเซ ยูดี (Dr. Thani Bin Ahmed Al Zeyoudi) รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 1 ของไทยในตะวันออกกลาง โดยไทยได้แสดงความพร้อมและศักยภาพที่จะเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงได้เชิญชวนมาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและสินค้าเกษตรของไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงเจตนารมน์ที่จะสรุปผลการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ยูเออี ในโอกาสแรก

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับ ดร. ซาอิด โมฮัมเหม็ด (Dr. Said Mohammed Al-Saqri) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจโอมาน เพื่อพูดคุยหารือแนวทางการขยายการค้าระหว่างกัน ทางฝ่ายโอมานได้ชื่นชมพัฒนาการด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจของไทย และเห็นว่าสองฝ่ายควรร่วมมือกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยฝ่ายโอมานแสดงความสนใจต่อบทบาทการเป็นคลังอาหารให้แก่โอมาน พร้อมทั้งเชิญชวนโอมานเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ฝ่ายโอมานแสดงความประสงค์ที่จะจัดทำความตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนอีกด้วย

กระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญชวน และแสดงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นคลังอาหารให้กับประเทศตะวันออกกลาง โดยในการหารือทวิภาคีวงต่างๆ ระหว่างผมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศต่าง ก็ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของไทยในการผลิตอาหารและการมีสินค้าฮาลาลคุณภาพสูง โดยประเทศต่างๆ มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย และใช้ไทยเป็นคลังอาหารเพื่อจัดหาและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังประเทศในตะวันออกกลาง เพื่อเสริมความมั่นคงทางอาหาร นายพิชัย กล่าว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password