‘นิพิฏฐ์’ พบ ‘ชวน’ ปิดห้อง หาแนวทางกู้ศรัทธาปชช. หวั่นลต.งวดหน้ากลายเป็นพรรคต่ำสิบ

“นิพิฎฐ์” ให้กำลังใจ “ชวน” มองเลือกตั้งครั้งหน้า จะได้ส.ส.ไม่เกินหลักหน่วย เพราะบ้านใหญ่ ปชป. ขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่หลัง ส่วนอดีตประธานชวน ต้อนรับอดีตสมาชิกพรรค ปชป. ที่มาเยี่ยมที่บ้านพัก ปิดห้องหารือลับกว่า 2 ชั่วโมง

วันที่ 31 ส.ค.2567 เวลา 11.30 น. ที่บ้านวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ต้อนรับนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. โดยได้ร่วมรับประธานอาหารมื้อกลางวันด้วยกัน ก่อนจะร่วมกันหารือภายในบ้านพัก โดยไม่เปิดให้ใครๆเข้าร่วมรับฟัง นานกว่า 2 ชั่วโมง

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มาถึงวันนี้ได้อย่างไรนั้น มองว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจมีการปรับเปลี่ยนคนเยอะมีคนรุ่นใหม่ซึ่งไม่ลึกซึ้งถึงอุดมการณ์ถึงแนวทางการต่อสู้ของพรรคเยอะ คือคนเก่าก็ไม่ได้เข้ามาเยอะ และคนใหม่เยอะไม่ได้ศึกษาประวัติของพรรคสักเท่าไหร่ บางทีวิธีคิดของเขาก็ตรงข้ามกับแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต

เมื่อถามว่า ในขณะนี้กลุ่ม กปปส.เขาน้อยใจเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์มองข้ามศพของ กปปส.เข้าไป ตนเองก็เห็นใจเพราะเขาเคยต่อสู้กันมา มันเหมือนกับว่า กปปส.หรือ พรรคประชาธิปัตย์ทอดทิ้งมวลชน ตรงนี้ตนให้กำลังใจเขา ท่าทีของกลุ่ม กปปส.ที่เป็นแกนนำ ท่าทีของกลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำก็ตรงข้ามกับการต่อสู้ในอดีต ประชาชนเขาร่วมกันต่อสู้มาและวันนี้ดูเหมือนเขาทิ้งมวลชน อันนี้ก็ต้องไปว่ากันว่าเขามีเหตุผลอะไร แต่ในส่วนตัวตนเองให้กำลังใจพี่น้องที่เคยต่อสู้ร่วมกันกับกลุ่ม กปปส. ตนให้กำลังใจกับพี่น้องที่เคยร่วมแนวทางเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อถามว่า ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่น่าจะเกิน 10 คน ครั้งหน้า คือตนเองเปรียบเทียบอย่างนี้ ตอนนั้นพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ จนกระทั่งหัวหน้าพรรคคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกจากพรรคไป ตอนนั้นเรามี 52 เสียง เราเข้าไปร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์คะแนนมันไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย ทั้งๆที่แนวทางของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ กับ พรรคประชาธิปัตย์มันก็ไปกันได้ จาก 52 เหลือ 25 แต่คราวนี้พอพรรคประชาธิปัตย์สวิงกลับไปตรงกันข้ามเลย ไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย ตนคิดว่าการเลือกตั้งมันไม่ใช่ 26 เสียง คงต้องน้อยกว่า 25 อาจจะเป็น 24 ,10 ,11 หรืออาจจะต่ำกว่า 10 ก็ได้ ที่ตนวิเคราะห์ว่าเป็นหลักหน่วย คือไม่ถึง 10 คน ตนดูตามสภาพของบ้านใหญ่ เพราะประชาธิปัตย์เดินตามแนวทางการเมืองที่อาศัยบ้านใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้าอาศัยบ้านใหญ่ในการต่อสู้อย่างนี้ ตนมองว่าบ้านใหญ่พรรคประชาธิปัตย์มีไม่กี่หลัง อาจจะมี นครศรีธรรมราช สงขลา ตนจึงคิดว่าน่าจะต่ำสุดประมาณนั้น

ถามว่าก่อนหน้านี้นายเดชอิศม์ ขาวทอง เคยอยู่ไทยรักไทยและมาเป็นเพื่อไทยปัจจุบัน สมัยนั้นใครเป็นคนเชิญชวนคุณเดชอิศม์มาร่วมพรรค นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ในขณะนั้นตนเองเป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้อยู่ซึ่งคุณเดชอิศน์ก็เข้ามาตามขั้นตอนตามกระบวนการของพรรค อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา ไม่ได้หมายความว่าอยู่ๆเขาจะเข้ามา เขาเข้ามาตามขั้นตอน ทางผู้บริหารพรรค ก็ยินยอมให้เขาเข้ามาได้ แต่ว่าเมื่อเข้ามาแล้วเขาได้ทำการเมืองตามแนวทางอุดมการณ์ของพรรคหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง แต่การเข้ามาถูกต้องหมด

เมื่อถามว่าเป็นความแตกแยกครั้งใหญ่หรือไม่ ตนมองว่าก็ตามที่เห็น การแตกแยกในอุดมการณ์ของพรรค ถามอีกว่าท่านชวนจะสามารถรวมกลุ่มได้อีกหรือไม่นั้น อันนี้ตนไม่ทราบ ไม่ทราบว่าท่านจะทำอย่างไรต่อ ตนไม่แน่ใจเรื่องอนาคตตอนนี้ของพรรคประชาธิปัตย์

ด้านนายชวน กล่าวว่า วันนี้คุณนิพิฏฐ์มาเยี่ยมตามปกติ เช่นปีใหม่ วันทำบุญพ่อแม่เขาก็มาร่วมงานอยู่ และวันนี้ก็มีข่าวสารเรื่องของในพรรค คนเหล่านี้เขาเคยอยู่ในพรรคมาก่อน มาเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจทำงานยืนหยัดเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตนเองพยายามปกป้องประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในกรณีที่ถูกเลือกปฏิบัติ พูดง่าย ๆก็ คือว่าการที่มีนโยบายของรัฐบาลบางชุดที่ใช้คำว่าพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ก็กระทบต่อพี่น้องในภาคใต้มากเพราะภาคใต้ไม่เลือก

อย่างขณะนี้พรรครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ตนเข้าใจว่า 3 สมัยที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เลือกเลย เหตุผลหนึ่งก็มาจากการที่ ตนเองรณรงค์ว่าอย่าเลือกพรรคเหล่านี้ เพราะพรรคเหล่านี้เลือกปฏิบัติกับเราแกล้งเราพูดง่ายๆ คนส่วนหนึ่งก็เชื่อก็ไม่เลือกเขาเลย วันหนึ่งตนเองจะไปกลับลำไปหนุนพรรคที่ตนเองบอกว่าอย่าเลือก ซ้ำกับตัวตนเองไม่เกี่ยวกับคนอื่น ที่ไม่ได้สู้เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องของคนเหล่านั้น แต่สำหรับตนที่สู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมมาให้พี่น้องทางปักษ์ใต้ที่ถูกกลั่นแกล้ง ตนเองไม่สามารถที่จะทรยศพี่น้องประชาชนได้ เพราะฉะนั้นจุดยืนอันนี้เพื่อน ส.ส.ที่อยู่ในพรรคที่ยังมั่นคงอยู่กับอุดมการณ์ เขาก็มาเป็นกำลังใจ

เมื่อถามว่า จากการที่เลขาพรรคประชาธิปัตย์บอกที่ไปร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพราะว่า 20 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะเพื่อไทยเลย อันนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาในการแข่งขันมีแพ้ชนะ สำหรับเรา เราภูมิใจว่า เราชนะมาด้วยความชอบธรรม แพ้เราก็ไม่โกง แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา สำคัญว่าชนะแล้วโกงสังคมไม่ควรยอมรับ

ขณะเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ประชาธิปัตย์ของแท้อยู่ที่นี่ หากถึงเวลา ผมจะเอาประชาธิปัตย์กลับคืนมา

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password