พท. ส่งเทียบเชิญถึง ปชป. แล้ว ย้ำ เห็นตรงกันจับมือ เพื่อประโยชน์ชาติ! ทิ้งขัดแย้งไว้ข้างหลัง
“สรวงศ์” เผย พท.เห็นตรงกันจับมือ ปชป.เพื่อประโยชน์ของชาติ ทิ้งความขัดแย้งไว้ข้างหลังเดินหน้าประเทศ ลั่น ปชป.ยุคนี้จับมือกันได้ ยันไม่ใช่แผนปิดสวิตซ์ 3 ป. ด้าน “เดชม์อิศม์” รับเทียบเชิญ หวานเจี๊ยบบอกเรารักและให้อภัยกัน ไม่กังวลโดนร้อง ป.ป.ช.ไม่รู้เรื่องอะไร บอกถ้ามัวห่วงปมร้องเรียนก็ไม่มีใครเป็น รมต.กันได้
วันที่ 28 ส.ค.2567 เวลา 11.25 น. ที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ยื่นหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วมรัฐบาลแก่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกันนี้ได้มี สส.ของทั้ง 2 พรรคร่วมเป็นสักขีพยาน
นายสรวงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายเดชอิศม์ว่า วันนี้จะยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการให้กับพรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารประเทศ และเป็นรัฐบาลร่วมกัน
เมื่อถามถึงโควตารัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบไปด้วย รมว. 1 ตำแหน่ง รมช. 1 ตำแหน่ง หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่จะแต่งตั้งและทูลเกล้าต่อไป และตนไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ เมื่อถามอีกว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์จะทำงานร่วมกันได้จริงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า อย่างที่นายเดชอิศม์ เคยกล่าวไว้ เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ปัจจุบันมั่นใจว่าในสภาผู้แทนราษฎรทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือทำให้ประชาชนและประเทศชาติไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยคัดค้าน ขอให้นำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์ เป็นที่ตั้งว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ พรรคของพวกเราร่วมต่อสู้กันมานาน แต่วันนี้มาถึงคนรุ่นใหม่ที่มาดูแลพรรค ส่วนอุดมการณ์ทางการเมืองก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์ แนวทางการทำงานเราไปด้วยกันได้แน่นอน
เมื่อถามต่อว่าเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทั้ง 2 พรรค หักหลังประชาชน เพราะที่ผ่านมาเคยพาประชาชนออกไปชุมนุมแล้วเกิดการบาดเจ็บล้มตาย แต่สุดท้ายกลับมาจับมือกันตั้งรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกันเลย แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค หัวหน้าทั้ง 2 พรรค รวมถึงเลขาฯและสมาชิกพรรคทุกคนมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเพราะประเทศชาติถอยหลังไปมาก ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง
เมื่อถามว่าพี่น้องเสื้อแดงได้สะท้อนความคิดเห็นถึงการเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้หรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ และเห็นตรงกันว่าถ้าเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมทุกคนเข้าใจได้
เมื่อถามถึงเหตุผลในการเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า การบริหารประเทศก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร แต่พวกเราที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องทำให้เสียงในสภามั่นคง เราไม่ได้เชิญเพียงแค่พรรคประชาธิปัตย์ แต่เชิญหลายส่วนให้เข้าร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อร่วมพัฒนาประเทศต่อไป ต่อข้อถามว่าเป็นแผนปิดสวิตซ์ 3 ป.ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า
“ไม่ใช่แผน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ แต่พอถึงวันนี้เราทำงานร่วมกัน 1 ปีแล้ว เราเห็นถึงคำอภิปรายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ เราก็ดูการทำงานของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนี้ คิดว่าก็สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่าการจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้จะทำให้ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยไม่พอใจหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอให้ดูที่ผลงาน มั่นใจหากร่วมกันทำงานแล้วผลงานออกมาดี และมองอีกมุมหนึ่งความขัดแย้งได้หายไปแล้ว และร่วมมือกันทำงานจะเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า
ด้านนายเดชอิศม์กล่าวว่าขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้ความไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ และเห็นความสำคัญของพรรคในการที่จะช่วยกันดูแลประเทศ หลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุม สส.ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. นี้
เมื่อถามถึงการทำความเข้าใจกับผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง เรามีแต่ความรักความเข้าใจ และการให้อภัยกัน อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา กับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศ แนวคิด การพัฒนาประเทศไม่เหมือนกัน ดังนั้นพอถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ ที่เรารักกัน เป็นสิ่งที่ดีงาม
เมื่อถามว่ากลุ่มของนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้อาจมีความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่าย แต่เมื่อมีมติของพรรคก็ต้องปฏิบัติตาม จากนี้ถ้ามีคนในพรรคโหวตแตกต่างจากมติของพรรคคงทำเช่นนั้นไม่ได้
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีคนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคสำรอง นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เราไม่ได้เป็นพรรคสำรอง รอบที่แล้ว สส.จำนวน 16 คนก็ได้โหวตให้ หลายคนบอกว่าเราต้องไปร่วมรัฐบาลในเวลานั้น แต่เราก็ไม่ได้ไปร่วม เพราะเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วกับวันนี้ก็ไม่เหมือนกัน จึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และย้ำว่าไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่านโยบายใดที่พรรคประชาธิปัตย์จะนำไปร่วมผลักดันกับรัฐบาล นายเดชอิศม์ กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ ว่าจะให้กระทรวงใด เราสบายใจที่ได้ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เรามีความรักและการให้อภัยซึ่งกันและกัน เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี นายเดชอิศม์ กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่กังวล และตนก็ยังไม่ทราบเลยว่าเรื่องใน ป.ป.ช.ของตนคือเรื่องอะไร น่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับตน ถ้ามีเรื่องร้องเรียนทุกคนก็ไม่มีใครเป็นกันได้ เพราะคนนั้นคนนี้ก็ไปร้องเรียน ส่วนรายชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ต้องรอที่ประชุมพรรคก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า คำนี้ฮิตเหลือเกิน ก็แล้วแต่ ทุกอย่างมองกันที่ผลงาน ต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี ภายใต้การนำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตนขออย่างเดียวให้โอกาสนายกฯ และครม.ชุดใหม่ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิดหรือไม่ดีค่อยร้องเรียน ไม่ใช่ออกมาพูดเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูที่ผลงาน
เมื่อถามถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้องเรียนกรณีซุกหุ้นของ น.ส.แพทองธาร นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรามีทีมกฎหมายดูอยู่แล้ว และคิดว่าจะไม่เป็นประเด็น เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับพรรคไทยสร้างไทยหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องพูดคุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย.