‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เดินหน้าต่อ กลุ่มเปราะบางเฮ ได้รับจัดสรรกลุ่มแรก พท. ลั่นทำตามสัญญา
“ภูมิธรรม” ยันเดินหน้าให้บรรลุ วัตถุประสงค์“ดิจิทัล วอลเล็ต”ต้องไปต่อ โดยปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ น้อมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่รอตั้งรัฐบาลเสร็จและแถลงนโยบายก่อน ไม่เกิน 15 วันดำเนินการได้ทันที ลั่น“เพื่อไทย”เคยสัญญาอะไรไว้กับปชช.ยังเดินหน้าตามนั้น
ความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ใช้หาเสียง หลังมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรีมาเป็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่มีกระแสข่าวจะล้มโครงการนี้ แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระบุ ดิจิทัลเวอลเล็ตยังเดินหน้าต่อ สอดคล้องกับที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมว่า โครงการดิจิทัลเวอลเล็ต มีทางไปและมีทางออกที่ดี แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว
สำหรับการเดินหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการปรับเงื่อนไข เบื้องต้นเป็นการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรกในวงเงิน 1.22 ล้านบาท ตามที่สภาฯเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน มาใช้แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐครั้งเดียวเลย 10,000 บาท โดยไม่สนใจว่าบัตรสวัสดิการฯ เป็นบัตรที่มาจากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลเป็นการเติมเงินสดลงไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ส.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการปาฐกถาพิเศษในงาน Dinner Talk: Vision for Thailand 2024 ซึ่งจะพูดถึงปัญหาทิศทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจรวมการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในมุมมอง”ทักษิณ ชินวัตร”
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรม Thailand E-commerce Expo 2024 ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยามว่า เราจะเดินหน้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ แต่ว่าสถานการณ์ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ก็จะปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์และข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่มี ให้เหมาะสม ให้ทุกคนสบายใจ จุดมุ่งหมายที่วางไว้ต้องพึ่งกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นเต็มที่ ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอให้พรรคร่วมกับพรรครัฐบาล ซึ่งจะเป็นทีมเดียวกันหรือไม่ ทีมใหม่หรือไม่ ต้องไปตกลงก่อนแถลงนโยบาย
“ความชัดเจนทั้งหมดจะมีหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ และ ถวายสัตย์ฯเรียบร้อย ต้องดำเนินการภายใน 15 วันหลังแถลงนโยบายต่อสภาฯทั้งหมด นับหนึ่งรัฐบาลใหม่ ก็เริ่มดำเนินการได้ อะไรที่เราพูดกับประชาชนไว้เรารักษาสัญญา อะไรที่เราทำได้ เราทำเต็มที่ เพื่อไทยตัดสินใจอย่างไรไม่เคยทิ้ง เดินหน้าตามนี้ในทางปฏิบัติที่วิพากษ์วิจารณ์มาเราจะรับข้อวิพากษ์วิจารณ์ไปปรับ มาตรการอื่นเป็นหน้าที่เราที่ต้องคิดอยู่แล้ว จะไปดูรายละเอียด ต้องทำให้ประชาชนพอใจแน่นอน และให้เพราะวัตถุประสงค์ครบถ้วน ไม่ลดขนาดโครงการ พูดไว้อย่างไรก็ทำอย่างนั้นให้ฟังเรา” นายภูมิธรรมกล่าว
มีความเห็นจากนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ฝากถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ให้รีบแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อให้เกิดความแน่นอน เพราะมีข่าวลือออกมามาก ว่าจะใช้งบประมาณทั้งของปี 2567 และ 2568 ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ทุกอย่างชะงักงันไปหมด ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านโยบายใหม่ของรัฐบาลเป็นอย่างไร เดี๋ยวจะถอยเดี๋ยวเดินหน้า ทำให้งงกันไปหมด ดังนั้น ขอให้ครม.ใหม่คอนเฟิร์มในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า และเห็นว่าทางออกที่จะใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้กลุ่มเปราะบางก่อนนั้น เป็นทางออกที่เราพูดถึงกันมาสักพักหนึ่ง และควรใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีเพิ่มเติมและจ่ายเป็นเงินสด แค่ 22,000 ล้านบวกกับงบกลางบางส่วนได้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ที่รัฐบาลจะมี Option นี้อยู่ในมือ และพอคาดเดาได้
ส่วนจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหนนั้น นางสาวศิริกัญญากล่าวว่า ถ้าเม็ดเงินใส่เข้าไปในระบบน้อยลง ผลของการกระตุ้นก็อาจน้อยลงตามไปด้วยและต้องบอกว่าสำหรับกลุ่มเปราะบางจะมีผลในการใช้จ่ายมากกว่าคนที่มีรายได้มากอยู่แล้ว จึงมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อวงเงินน้อยลงการกระตุ้นก็น้อยลงด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่างบประมาณรายจ่ายประจำมีงบประมาณ 2568 จะใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตในรูปแบบใด อย่างไรก็ตาม เห็นว่า จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว หากต้องรอถึงไตรมาส 4 อาจช้าเกินควร ดังนั้น การเลือกจ่ายเป็นเงินสดสำหรับกลุ่มเปราะบาง ทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้โดยไม่ต้องรอ
สำหรับ Application แอปฯทางรัฐ ที่ทำมาใหม่ในระบบการชำระเงินต่างๆนั้น ทำไว้รองรับสำหรับ 50 ล้านคนที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต ถ้าเหตุผลและความจำเป็น แหล่งที่มาของเงินไปไม่ได้จริงๆ ก็ต้องหาทางออกเรื่องนี้ คิดว่าแอปฯทางรัฐก็ยังใช้ได้โดยไม่สูญเปล่า แต่ตอนนี้ความไม่แน่นอนมีอยู่สูงมากสำหรับโครงการนี้ ไม่ใช่เรื่องการแจกให้กลุ่มเปราะบางอย่างเดียว ทราบว่ากรรมาธิการฯจะตัดลดงบ จากการชำระหนี้ธนาคาร 35,000 ล้านบาท เพื่อใส่งบกลางใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเป็นเงินที่ต้องชำระหนี้ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย.