TOP 20 News – ตอน : นายใหญ่เดิน ‘ดีลการเมือง’ เอง?
“ดวงอาทิตย์…ห่างไกลเกินไป ก็มืดมิดและเหน็บหนาว แต่หากใกล้มากไป…อาจเจิดจ้าและรุ่มร้อน จนแผดเผาและมอดไหม้เอาได้…” นายสัปดาป…เข้าประจำการเขียนความเคลื่อนไหว…สังคมคน ณ เว็บไซต์ข่าว ยุทธศาสตร์ออนไลน์ ในห้วงก่อนสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม 2567
…★★…นาทีนี้ “เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอรับจ้าง…คงรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ระหว่าง…ดวงอาทิตย์ กับ “นายใหญ่ – ทักษิณ ชินวัตร” อย่างไหนร้อนแรงมากกว่ากัน? ลือกันสนั่นทุ่ง…เหตุที่ เจ้าตัว…หนีแถลงข่าวนโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” ที่ตัวเองประกาศหาเสียงตั้งแต่ต้น แถมเลือกนั่งพ่วงเก้าอี้ “รมว.คลัง” ช่วงแรกของ “รัฐบาลเศรษฐา” เพราะต้องการเร่งรัด…ขับเคลื่อนโครงการแจกเงินหมื่น แล้วจู่ๆ ก็ต้องเปลี่ยนแผนกระทันหัน มอบหมายให้ “3 รมต.คลัง” นำโดย “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่หนีบเอา “2 รมช.คลัง” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ เผ่าภูมิ โรจนสกุล มานั่งแถลงข่าวความคืบหน้าแทนในช่วงสายวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ลึกๆ เพราะไม่ต้องการตอบคำถามนักข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะปม ยกเลิกแนวคิดให้ “กัญชา” เป็นยาเสพติด! เพียงเพราะภาพนั้นภาพเดียว ณ Rancho Charnvee Resort Khaoyai & Country Club ของตระกูล “ชาญวีรกูล”…★★…ว่ากันว่า เรื่องนี้…มันต่อเนื่องมาจากผลการเลือกตั้ง สว. ก่อนหน้านี้ กระทั่ง เสร็จสมอารมณ์หมาย ชนิด เรียบร้อยโรงเรียนครูใหญ่ กับ “เนวินสภา” ที่ครอบคลุม…เครือข่ายพรรคภูมิใจไทย กลุ่มข้าราชการทหารและพลเรือน กลุ่มทุนธุรกิจการเมือง และกลุ่มอำนาจเก่า? การโหวตลับ! เลือก “ประธาน + 2 รองประธานวุฒิสภา” ตั้งแต่เมื่อช่วงสายจนถึงเย็นวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 สะท้อนภาพ “อำนาจสภาสูง” ในมือ “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ชนิด…ยากจะปฏิเสธ! ใครบ้าง? คือ สว.สีน้ำเงิน และมีจำนวนเท่าไหร่? ย้อนกลับไปเช็คได้ที่คะแนนโหวตเลือก “ประมุข” ฝั่งวุฒิสภา เริ่มที่…ประธานวุฒิสภา คนที่ 14 “มงคล สุระสัจจะ” สายตรง “ครูใหญ่” กับ 159 คะแนน…ทิ้งห่างอันดับ 2 และ 3 ไกลสุดลูกตา ตามมาด้วย รองประธานคนที่ 1 “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” แม้จะได้คะแนนต่ำสุดของกลุ่มที่ 150 คะแนน แต่ยังคงทิ้งห่างอันดับ 2, 3 และ 4 ปิดท้ายกับ รองประธานคนที่ 2 “บุญส่ง น้อยโสภณ” ที่กวาดคะแนนสูงสุดที่ 167 คะแนน จบข่าว!!!…★★…จะว่าไป…เรื่อง “ประธาน + 2 รองประธาน…เนวินสภา” นั้น คอการเมืองไทย รู้ล่วงหน้ามาเป็นสัปดาห์แล้ว แต่ที่ยังไม่แน่ใจ? ก็คือ…จำนวนสมาชิกเครือข่าย สว.สีน้ำเงิน! ว่าจะมีมากหรือน้อยกว่า 150 คนตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ สุดท้าย…ก็ชัดเจน หากจะดูยอดการโหวตลับเลือก…รองประธานคนที่ 2 ว่ากันว่า…นั่นคือ ตัวเลขจริง! ณ นาที นั่นหมายความว่า…วันข้างหน้า และสัปดาห์หน้า ตัวเลขอาจเปลี่ยนแปลง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงตามดีมานด์และซัพพลายด์ของเก้าอี้ “กรรมาธิการวุฒิสภา” ประสา…คนชอบสุมไฟใส่ฟืน นายสันดาป ขอทำนายล่วงหน้า…ยอด “สว.สีน้ำเงิน” จะพุ่งพรวดแตะระดับ 180 คน ตามปริมาณความต้องการเก้าอี้ ประธานกรรมาธิการวุฒิสภาคณะต่างๆ ทั้ง 26 คณะ (ยึดตามชุด 250 สว.)…★★…
…★★…ฉะนั้น ก็อย่าแปลกใจ? หาก “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร จะเปลี่ยนบทบาทเดิม จากที่เคยแต่จะใช้ “บริวาร” เดินเกมส์ตามออเดอร์ มาเป็น “ลงมือดีลเอง” ภาพการ “นำทัพ” แกนหลักเพื่อไทย บุก เขาใหญ่ เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แปลความได้ว่า…“นายใหญ่” เลือกจะ “ก้มต่ำ…ลืมอดีต” หันมาดีลตรงกับ เครือข่าย “ครูใหญ่ – เนวิน” ด้วยเหตุเพราะ…มี สว.สีน้ำเงิน อยู่กันเต็ม “เนวินสภา” นั่นเอง! ใครที่เคยคิดว่า “ทักษิณ ชินวัตร” จะเอาเป็นเอาตายกับเจ้าของวลี “มันจบแล้วครับนาย” นั้น นาทีนี้…คงต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ก็ขนาด “นายใหญ่” ยังส่งตรง…กระแสจิตถึง “เศรษฐา ทวีสิน” กระทั่ง ยอมยกเลิกแนวคิดให้ “กัญชา” เป็นยาเสพติด? ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “รัฐบาลเพื่อไทย” เสียงแข็ง! นั่นเพราะยังมีเรื่องใหญ่สำคัญข้างหน้ารอท่าอยู่???…★★…สถานการณ์นี้…บริบทที่เคยถูกวางตัวให้เป็น “ลุงโทนี่” กูรูทางด้านเศรษฐกิจและการบริหารจัดการระดับเวิลด์คลาส ก่อนจะกลับประเทศไทย เมื่อ 3-4 ปีก่อน คงหลอก “ชนชั้นกลาง” ไม่ได้อีกแล้ว จำเป็นที่ “ทักษิณ ชินวัตร” จะต้องมาใน “ธีมใหม่” ดังสำนวนโบราณที่ว่า…“นกดีย่อมเลือกกิ่งเกาะ!” มิเช่นนั้น…ไม่เพียง กฎหมายหลายฉบับของพรรคเพื่อไทย…ที่จ่อรอคิวการพิจารณาและส่งต่อจาก…ฟาก สภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปยังฝั่ง วุฒิสภา จะค้างเติ่งกับต่อไป ยังอาจส่งผลกระทบถึง แผนใหญ่ “2 นารีเริงร่า” หนึ่ง…พา “น้องสาว – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กลับประเทศ และอีกหนึ่ง ดัน “ลูกสาว – อุ๊งอิ๊ง : แพรทองธาร” นั่งเก้าอี้นายกฯหญิง คนที่ 2 ของเมืองไทย คงไม่ง่ายนัก! จากนี้…คงได้เห็น บรรดา “ลูกหาบ” ที่ทำงานไม่ได้ตามเป้า! ตกงานเป็นแถบแน่!!!…★★…
…★★…หากเป็น Board game ยามนี้ ถือว่า…กินแดนมาจนเกือบมิดกระดาน? สำหรับความเชื่อเรื่องการ “ยุบพรรคก้าวไกล” กับ วัน (เส้น) ตาย!…7 สิงหาคม 2567!!! “คอการเมือง” ส่วนมากเชื่อมั่นในแรงอาฆาตของ…เครือข่ายอำนาจเก่า ว่าจะยังคงเดินหน้า…ไล่บดทับ “สายสมแห่งการเปลี่ยนแปลง” เพื่อให้เหลือเพียงแค่ “การผายลม” ในทางการเมือง ชนิดไม่สนว่า…การเลือกตั้งครั้งหน้า “เหล้าเก่าในขวดใหม่” จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากมายสักเพียงไหน? นาทีนี้…ทำลายได้…ต้องทำลายก่อน! ยิ่งในท่ามกลางวังวน…ตัวละคร “นายกฯคนใหม่” ยังไม่พร้อม! ไม่ว่าจะเป็น “ตัวแทน – แคนดิเดท” จากฟากไหน…ฝั่งใด? สะท้อนภาพการยืดอายุของ “เศรษฐา ทวีสิน” ต่อไป อย่างน้อย…“คนคุมเกมส์” จำเป็นต้องให้เวลา “แก้ตัว – แก้เกมส์เศรษฐกิจ” อีก 1 ปี หากสร้าง “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ไม่ได้ตามคำคุยโตเอาเอาไว้! ก็ควรจะไปด้วยกันพร้อมกับ…พายุแห่งการทำลายล้างเศรษฐกิจไทย!!! ส่วนความคืบหน้าของการแถลงข่าวโครงการ “ดิจิทัล วอลเล็ต” แจกเงิน 10,000 บาท ในช่วงสายวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นั้น ก็คงต้องเช็คเอาจากหน้าสื่อกันอีกที เพราะ นายสันดาป เขียนบทความชิ้นนี้ ก่อนหน้ามานานกว่า 24 ชม.นั่นเอง …★★…ไหนๆ ก็แตะปมเศรษฐกิจแล้ว ก็ต้องไปต่อ…รอไม่ได้? ดูเหมือนนาทีนี้ “เผ่าภูมิ โรนจนสกุล” จะตกพุ่มเป็น “ลูกรัก” ของ “เศรษฐา ทวีสิน” ไปเสียแล้ว ต่อเนื่องจากที่เคยรับบทเป็น “เลขานุการ รมว.คลัง” เมื่อคราวนั่งควบ “นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.คลัง” มาวันนี้…ดร.อ๊อฟ (ชื่อเล่นของ “เผ่าภูมิ”) ขึ้นแท่นเป็น “วายุภักดิ์ 3” ดีกรี “รมช.คลัง” ได้รับมอบหมายภารกิจ… รังสรรค์ “นวัตกรรมนโยบายเศรษฐกิจ” จากที่เคยมีส่วนร่วมคิด “ดิจิทัล วอลเล็ต” แจกเงิน 10,000 บาท แตกไลน์ไปสู่แนวคิด “หวยเกษียณอายุ” ที่เพิ่งได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ได้ไม่นาน ล่าสุด ผุดไอเดียใหม่ IGNITE FINANCE และ “มิชชั่น” ในนั้นมี 2 เรื่องใหญ่…ซ่อนอยู่! หนึ่ง…เปลี่ยนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลก และอีกหนึ่ง…จ่อตั้ง สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (National Credit Guarantee Agency) หรือที่ ดร.ออฟ เรียกสั้นๆ ว่าเป็น NaCGA…★★…
…★★…เรื่องแรก…การเป็น ศูนย์กลางการเงินระดับโลก นั้น จำเป็นที่ รัฐบาลไทย ต้องเปิดช่องให้มีการจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank และสิ่งนี้…เสมือนเป็น “ท่อระบายทางการเงิน” ที่จะมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้า-ออกในระยะเวลาอันสั้น หากทางการไทย มิอาจสร้างมาตรการป้องกันอย่างเข้มแข็ง กระทั่ง กลายเป็นการไหลเข้า-ออกของเงินสกปรก ล่ะก็ ความเป็น…ศูนย์กลางการเงินระดับโลก จะแปรเปลี่ยนเป็น “แหล่งฟอกเงินข้ามโลก” ในบัดดล แต่ที่แน่ๆ เรื่องพรรค์ นี้…หากลองไปถาม คนในกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ก็จะได้รับคำตอบคล้ายๆ กัน คือ เพิ่งจะรู้พร้อมกับนักข่าวนั่นแล…★★…อีกเรื่อง…NaCGA มีหลายคนสงสัย? จะซ้ำซ้อนกับภารกิจของ บสย. ที่คอยทำหน้าที่ “ค้ำประกันเงินกู้” ให้กับธุรกิจ SMEs หรือไม่? เจ้าตัว (เผ่าภูมิ โรนจนสกุล) ยืนยัน…เป็นคนละเรื่องเดียวกัน??? เหตุผลที่อธิบาย คือ…บสย.ทำงานอยู่ข้างหลังแบงก์พาณิชย์ รอการพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้ หากผ่านด่านเอกชน จึงเป็นหน้าที่ “ค้ำประกันเงินกู้” ของ บสย. ต่างจาก NaCGA ที่มีภารกิจ “ครบวงจร” และทำงานอยู่หน้าแบงก์พาณิชย์ คอยทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้กู้ เมื่อผ่านจะค้ำประกันเครดิตให้ทันที! แบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้ได้เลย หากจะเสียหายอย่างไร? NaCGA รับผิดชอบเต็มร้อย!!! นี่ขนาดแผนงานนี้ยังไม่เกิดขึ้น ทว่า ผลกำไรของ “10 แบงก์พาณิชย์” ในห้วงครึ่งแรกของปี 2567 ยังทะลุ 1.2 แสนล้านบาท ไปแล้ว หากได้ NaCGA มาช่วยประกันความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ให้อีก นายสันดาป นึกไม่ออกว่า…ตัวเลขผลกำไรของแบงก์พาณิชย์ จะพุ่งทะยานไปสู่จุดสิ้นสุดตรงไหน?…★★…
…★★…ลึกๆ บทบาทของ “เผ่าภูมิ โรนจนสกุล” อาจทำงาน “เข้าตา – เศรษฐา ทวีสิน” แต่กับ ข้าราชการกระทรวงการคลัง แล้ว…กลับตรงกันข้าม? มีเสียงสบถ! กับวลี “กระบือ” ให้นักข่าวได้ยินอยู่บ้าง!!?? แต่จะหมายถึงใคร? ยากจะคาดเดาได้! ที่แน่ๆ การตอบคำถามของนักข่าวก็ดี การให้ข่าวชนิด “เปิดประเด็นใหม่ๆ” โดยที่ข้าราชการประจำไม่รู้เรื่องมาก่อน ก็ดี เมื่อผนวกกับการ “ผิดเวลา” ในบางครั้งของนัดหมายการแถลงข่าวใดๆ ก็ตาม ล้วนสร้างความอิดหนาระอาใจอย่างมาก ล่าสุด ทั้งๆ ที่เป็นงานสำคัญ…แถลงข่าวการเปิดจำหน่าย จ่ายแลก และรับจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในวันเดียวกัน สถานที่เดียวกัน และเวลาต่อเนื่องกันไป กับงานเปิดตัว IGNITE FINANCE ทว่า…ทั้ง บรรดาข้าราชการประจำและสื่อมวลชน จำนวนมาก ยังไปต่อไม่ได้??? เนื่องจาก “เผ่าภูมิ โรนจนสกุล” ติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน? ต้องทิ้งช่วงให้ทุกคนต้องนั่งรอไปเกือบ 20 นาที!!! งานถึงจะเดินไปต่อได้ ถึงตรงนี้…คงไม่ต้องบอกนะว่า…สำนวน “คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ” เป็นอย่างไร?…★★…
…★★…ทิ้งท้าย…กับ ป้ายโฆษณากลางแจ้งขนาดใหญ่ ใกล้แยกห้วยขวาง ของ “แก๊งจีนเทา” ที่ถือได้ว่า “หยามหน้า – รัฐบาลไทย” อย่างที่สุด! ไม่เพียงการขึ้นตัว อักษรจีนขนาด “บิ๊กบึ้ม!” หากความหมายบนป้าย ยังสะท้อนความ “อ่อนด้อย” ของรัฐไทย…มีอย่างที่ไหน? ปล่อยให้ แก๊งมิจฉาชีพข้ามชาติ ใช้ประเทศไทยเป็นฐาน “ขายหนังสือเดินทางปลอม และแปลงสัญชาติผิดกฎหมาย” แถมมีให้เลือกหลายสัญชาติ เสียอีก! ไม่ว่าจะเป็น…สัญชาติอินโดนีเซีย กัมพูชา ตุรกี วานูอาตู ฯลฯ เรียกว่า…ประกาศขายกันโจ๋งครึ่ม! ชนิดไม่มีเกรงกลัวกฎหมายไทย? นั่นเพราะ จีนเทากลุ่มนี้…ต่างรู้กันดีว่า “เจ้าหน้าที่รัฐไทย – ซื้อได้” โถ! ขนาด “จ้างผีโม่แป้งได้” ประสาอะไรกับการจะใช้เงินฟาดหัว “เจ้าหน้าที่รัฐไทย” คงมิใช่เรื่องยาก!!! ไหนๆ “เศรษฐา ทวีสิน” ลงพื้นที่เกาะติดเรื่องนี้กันแล้ว แถม “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในบริบท “มท.1” ยังประกาศลั่น! จะ “ตามจิก!” เรื่องนี้…กันสุดเข้มข้น! ก็ช่วยๆ กันขยายผลและย้อนกลับไปดูเสียหน่อยว่า…ในรอบ 10 ปีมานี้…มีคนต่างด้าวได้สัญชาติไทยกันกี่มากน้อย อยากให้ไปดูแถบ…ภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน รวมถึงแถบ ภาคตะวันออก ใกล้ดินแดนเขมรต่ำ! แว่วมาว่า…มีคนได้สัญชาติไทยเยอะมากจนผิดสังเกต แถมแตกลูกออกหลานอีกนับพันนับหมื่น ยั่วเยี่ย…แบบนันสต๊อปกันอีก ชี้เป้าให้แล้วนะ…ลองไปหาข่าวกันเองล่ะกัน!!! เอาเป็นว่า…สัปดาห์นี้ พอแค่นี้ ที่เหลือ…ไปว่ากันต่อสัปดาห์หน้า.