“กิตติรัตน์” ยันตั้ง อนุกก.ศึกษา “ดิจิทัลฯ” เพื่อความรอบคอบ /พิจารณางบฯ67เสร็จแล้ว
“กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ยันตั้งอนุฯศึกษาดิจิทัลวอลเลต เพื่อความรอบรอบ ไม่ใช่กลับไปสู่จุดเริ่มต้น พร้อมเผย กมธ. งบ 67 ทำงานเสร็จเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ เล็งชงเข้าสภาฯวาระ2-3 วันที่ 20-21 มี.ค. นี้
วันที่ 16 ก.พ.2567 เวลา 09.30 ที่รัฐสภา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาศึกษาโครงการดิจิตอลวอลเลตอีก 30 วันจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการยื้อเวลา ว่า ในหลักการโครงการนี้ไม่ได้เสนอของงบประมาณประจำปี 2567 เข้าใจว่าน่าจะ ดำเนินการด้วยการออก พ.ร.บ.กู้เงิน ทางกมธ.งบฯ จึงไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ แต่คิดว่าการที่รัฐบาลตั้งอนุฯขึ้นมาเพื่อให้เกิดความรอบคอบครบถ้วนทั้งส่วนราชการและนโยบายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเหมือนกับการพิจารณางบประมาณในทุก ๆ ปีก็มีการตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมา เพราะแต่ละอนุฯ จะลงในรายละเอียดของบประมาณแต่ละรายการ เพราะฉะนั้นเรื่องสำคัญของบ้านเมืองการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาเป็นเรื่องปกติ จึงขอให้ประชาชนได้สบายใจ
เมื่อถามว่าดูเหมือนจะกลับไปเหมือนจุดเริ่มต้นหรือไม่ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เนื่องจากมีข้อสังเกตจากหลายหน่วยงานดังนั้นจะบอกว่าไปเริ่มต้นใหม่คงไม่ใช่ ถ้าบอกว่าจะไม่ถอยไปดูอีกแล้ว ก็เท่ากับว่าเราไม่ให้ความสำคัญ หน่วยงานไม่ให้เกียรติกับหน่วยงานที่แสดงความคิดเห็นมาดังนั้นการที่จะพิจารณาให้รอบคอบก็ต้องเอาความเห็นเหล่านั้นมาพิจารณาด้วย
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ว่า ขณะนี้ทำงานมาแล้วครึ่งทางแล้ว หรือ ปริมาณงาน ร้อยละ 50.13 ในปีนี้ได้ปรับโครงสร้างการทำงาน อนุกรรมาธิการฯ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น โดยยังคงรักษาความละเอียดรอบคอบ เชื่อว่าจะสามารถพิจารณางบประมาณได้เสร็จเร็วกว่าปฏิทินงบประมาณที่เคยวางไว้ คาดว่าพร้อมเสนอต่อที่ประชุมสภาฯช่วงต้นเดือนเม.ย. แต่ขณะนี้ กมธ.ฯได้ประชุมและมีมติเห็นชอบที่จะขอแจ้งต่อสภาฯ ว่า พร้อมที่จะเสนอเข้าสู่สภาฯ เพื่อพิจารณาวาระ 2 -3 ในวันที่ 20-21 มี.ค.67 ซึ่งเท่ากับว่าทำงานได้เร็วขึ้น ประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อสภาฯ เมื่อพิจารณาแล้วก็จะส่งต่อไปยังวุฒิสภาพิจารณาต่อ จึงขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือต่อคณะกรรมาธิการฯ แม้บางครั้งจะมีข้อโต้เถียงกันบ้างแต่ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีรายการใดที่ต้องยุติด้วยการลงคะแนนเสียง โดยใช้เหตุใช้ผลในการพูดคุยกัน
เมื่อถามถึงการปรับลดตัวเลขงบประมาณ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ในห้องใหญ่ยังไม่มีการพิจารณาปรับลด ได้มอบให้อนุกรรมาธิการ 8 คณะไปดำเนินการ และตามหลักการเป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้นในการปรับลด ไม่มีสิทธิ์เป็นผู้ปรับลดเอง และเมื่ออนุกรรมาธิการนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมาธิการชุดใหญ่ ในทุกปีจะมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดของคณะอนุกรรมการ และในหลักการของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะไม่มีการเพิ่มจำนวนเงินในรายการต่างๆ จึงไม่สามารถพูดตัวเลขการปรับลดได้.