กรอ. – ส.อ.ท. จับมือ ภาคเอกชน ใช้ประโยชน์ กากอุตสาหกรรม ลดปล่อย GHG
กรอ. ร่วมกับ UNIDO- กนอ.- ส.อ.ท. จับมือ เอกชน ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกากอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และผลักดันการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ความสำคัญและผลักดันหลักการ End-of-Waste หรือการสิ้นสุดของการเป็นของเสียในประเทศไทย ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ใช้หัวและใจ ในการผลักดันให้ผู้ประกอบการเกิดการขับเคลื่อนทางธุรกิจอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีเป้าหมายมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน และภายใต้ความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดการพัฒนานำกากของเสียอุตสาหกรรมไปเพิ่มมูลค่า และพัฒนาต่อยอดงานวิจัยสู่การพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อนำไปสู่การใช้งานจริง โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคจากการใช้งาน นอกจากนี้ ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยในโครงการนำร่องได้คัดเลือกของเสียที่มีศักยภาพ 2 ชนิด ได้แก่ ขี้เถ้าแกลบ และแม่พิมพ์ปูนพลาสเตอร์ ซึ่งรวมถึงปูนพลาสเตอร์ที่ไม่ใช้แล้ว
การศึกษานำร่องของทั้งสองโครงการได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้ประกอบกิจการโรงงานที่ให้ความสำคัญกับการนำของเสียที่มีศักยภาพนำกลับมาเป็นวัตถุดิบเพื่อใช้ประโยชน์ใหม่ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ นำไปสู่การลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อีสเทิร์น
ซิลิเกต จำกัด และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ เข้าร่วมโครงการการศึกษาเพื่อผลิตสารละลายไบโอโซเดียม
ซิลิเกตและไบโอโพแทสเซียมซิลิเกตอย่างยั่งยืนจากขี้เถ้าแกลบ นอกจากนี้ ในส่วนการศึกษาและดำเนินการเพื่อนำร่องทดสอบการนำแม่พิมพ์ปูนพลาสเตอร์ และปูนพลาสเตอร์ที่ไม่ใช้แล้วกลับมาผลิตเป็นแผ่นยิปซัมสำหรับการใช้ในงานก่อสร้าง ได้รับความร่วมมือจากบริษัท อินทรี ซุปเปอร์บล็อก จำกัด บริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด และศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสารและของเสียอันตราย
ดร.อุมา วิรัตน์สกุลชัย ผู้ประสานงานโครงการ องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกากอุตสาหกรรม และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานภายใต้โครงการ: Application of industry-urban symbiosis and green chemistry for low emission and persistent organic pollutants free industrial development in Thailand ที่ดำเนินการโดยองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก หรือ GEF และมีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ด้าน นายพิษณุ จารุพัฒนะสิริกุล รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ร่วมกับองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) และหน่วยงานพันธมิตร พัฒนาแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนของเสีย หรือ Circular Material Hub (CMH) สำหรับเป็นช่องทางการนำกากของเสียอุตสาหกรรมไปเพิ่มมูลค่า โดยอาศัยแนวคิดการเปลี่ยนของเสียจากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปสู่การเป็นวัตถุดิบหรือ Materials ให้อีกอุตสาหกรรมหนึ่ง ตามหลักการ End of Waste ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขยายผลความร่วมมือทางวิชาการ สู่การใช้งานจริงเชิงพาณิชย์ได้กว้างขึ้น
“ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้เป็นต้นแบบสำหรับผู้ประกอบการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ที่จะนำไปสู่การขยายผลการดำเนินงาน สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ และร่วมกันผลักดันงานด้านความยั่งยืนภายใต้โมเดล Bio-Circular-Green (BCG) ตามทิศทางของประเทศไทย เพื่อรักษาสมดุลด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ดร.จุลพงษ์ กล่าว