กรมศุลฯรับลูกนายกฯ สั่งคุมเข้มสกัดลอบนำเข้าเนื้อสัตว์จากเพื่อนบ้านทุกช่องทาง
“นายกฯ-รมว.คลัง” เรียกทุกหน่วยถกสกัดลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ทุกช่องทาง ด้านกรมศุลกากรสั่งหน่วยงานในสังกัดตรวจเข้มและเฝ้าระวัง พร้อมสอบข้อมูลการนำเข้าสินค้าล่วงหน้า สกัดการสำแดงเท็จ พ่วงเปิดตรวจและเอกซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ทุกใบ ชี้หากพบผิด! สั่งระงับทันที ส่วนคดีลอบนำเข้าหมูเถื่อน ลั่นเดินหน้าทำลายให้หมด ย้ำ! เอาผิดวินัยกับ จนท.บกพร่องปฏิบัติหน้าแล้ว
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์แถลงข่าว อาคาร 1 ชั้น 2 กรมศุลกากร, นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะ “โฆษกกรมศุลกากร” แถลงว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการลักลอบการนำเข้าเนื้อสัตว์ ประกอบด้วย เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนกรมศุลกากร โดย นายกรัฐมนตรีฯ ได้สั่งการให้กรมศุลกากรมีมาตรการในการควบคุมอย่างเคร่งครัดในการเข้มงวด กวดขันการลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำเข้าเนื้อสุกร เนื้อโค เนื้อกระบือ จากต่างประเทศในทุกช่องทาง
นอกจากนี้ ยังให้เร่งรัดติดตามการดำเนินคดี/ยึดทรัพย์ ผู้กระทำความผิดและผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และหากมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการทั้งในด้านวินัยและคดีอาญาให้ถึงที่สุด โดยตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อเร่งรัดและตรวจสอบการดำเนินการในเรื่องนี้ขึ้น โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ในส่วนของ กรมศุลกากร ภายหลังได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีฯ ได้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน จึงสั่งการให้ทุกสำนักงาน/ด่านศุลกากร และกองสืบสวนสวนและปราบปรามดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสินค้าที่มีความเสี่ยง ซึ่งอาจมีการสำแดงข้อมูลเป็นเท็จ โดยการสำแดงชนิดสินค้าเป็นสินค้าอื่นเพื่อลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร อีกทั้งให้เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าผ่านทางช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนอีกด้วย ทั้งนี้ได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้มีมาตรการในการควบคุมการลักลอบ/หลีกเลี่ยง การนำเข้าสินค้าประเภทเนื้อสัตว์จากต่างประเทศ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าสินค้าล่วงหน้าจากบัญชีสินค้า (Manifest) (Manifest คือ บัญชีสินค้านำเข้าที่ผู้รับขนส่งยื่นต่อศุลกากรเพื่อแสดงรายละเอียดของที่รับบรรทุก) เพื่อป้องกันการสำแดงข้อมูลในใบขนสินค้าไม่ตรงกับความเป็นจริง และเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจปล่อยสินค้าประเภทตู้แช่เย็น สินค้าเกษตร ทุกชนิด ทุกรายการ ทุกใบขนสินค้า โดยให้มีการ เปิดตรวจและ/หรือเอกซเรย์ทุกตู้คอนเทนเนอร์ หากพบว่าผู้นำเข้ารายใดมีการลักลอบ/หลีกเลี่ยง นำเข้าเนื้อสุกร เนื้อโค เนื้อกระบือ จากต่างประเทศในทุกช่องทาง จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรทำการจับกุมเเละดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน โดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร ทั้งนี้ กรมศุลกากรสนับสนุนการดำเนินการของพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมตรวจสอบ หากผู้ประกอบการใดถูกดำเนินคดีฯ ทางกรมศุลกากรจะพิจาณาระงับการปฏิบัติพิธีศุลกากรทันที
ในส่วนของ ความคืบหน้าในการดำเนินการทำลายชิ้นส่วนสุกร จำนวน 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง นั้น หลังจากที่กรมศุลกากรส่งมอบตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลางในคดีพิเศษ ที่ 59/2566 จำนวน 161 ตู้ ไปทำลายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 แล้ว กรมศุลกากรให้ความร่วมมือและประสานงานร่วมกับ DSI และกรมปศุสัตว์ เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ จนกว่าการทำลายของกลางฯ จะสิ้นสุดลง สำหรับเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ กรมศุลกากรได้มีการดำเนินการลงโทษทางวินัยเรียบร้อยแล้ว
สำหรับ สถิติการจับกุมกรณีลักลอบและหลีกเลี่ยงศุลกากร กรณี เนื้อสุกรและส่วนอื่นที่บริโภคได้ของสุกร โดยใน ปีงบประมาณ 2564 มีการจับกุม 14 ราย น้ำหนัก 236,177 กิโลกรัม ปีงบประมาณ 2565 มีการจับกุม 25 ราย น้ำหนัก 431,660 กิโลกรัม และ ปีงบประมาณ 2566 มีการจับกุม 181 ราย น้ำหนัก 4,772,073 กิโลกรัม.