‘วิโรจน์’ ย้ำหากเอา 2 พรรคลุงร่วมรัฐบาล ต้องตอบสังคมให้ได้ เชื่อพท.ไม่ทำอะไรบ้าๆ
“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ย้ำหากเอา 2 พรรคลุงมาร่วมรัฐบาล ต้องตอบสังคมให้ได้ ลั่น “มาเล่นพี่นิดของผมอีกแล้ว” หลัง สว.เตรียมขวาง “เศรษฐา ทวีสิน” นั่งนายกฯ ปมหาเสียงแก้ ม.112
วันที่ 1 ส.ค.2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีความคาดหวังในการประชุมวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) อย่างไรบ้าง ว่า 8 พรรคร่วมแม้จะรวมกันได้ 312 เสียง ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ2560 ที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ มันเป็นไปได้ยาก แต่หากลองจินตนาการดู หากพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกลแพ็คกันแน่น การจัดตั้งรัฐบาลสูตรอื่น หรือ การไฮแจ็ค ปล้นอำนาจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือข่าวลือว่าจะมีการทรยศหักหลังประชาชน เป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่ทำอะไรบ้าๆ
“มันยากแบบเป็นไปไม่ได้เลย เพื่อไทยก้าวไกลจับกัน 290 เสียง พรรคอื่นได้เท่าไร สว.ก็มาโหวตงบประมาณไม่ได้ รัฐบาล 260 เสียงจะอยู่อย่างไร คุณจะได้กระทรวงอะไร ภายใต้รัฐบาล 260 เสียง การเจรจาถูกต่อรองหนักอยู่แล้ว จะได้กระทรวงที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้จริงหรือ เผลอๆเศรษฐกิจแย่กว่านี้อีก ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่พาตัวเองไปสู่มุมอับทางการเมืองแบบนั้น” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่าที่คิดแบบนี้เพราะตนเป็นแฟนคลับพรรคเพื่อไทยมาก่อน การอภิปรายหรือท่าทีทางการเมืองในวันนี้ ตนมีปูชนียบุคคลนักการเมืองที่มาจากพรรคเพื่อไทยหลายคนที่เป็นแบบอย่าง เมื่อถามว่า มีการมองว่า พรรคเพื่อไทยใช้วิธีการนัดประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกระชั้นชิด เป็นการมัดมือชกหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทุกอย่างก็กระชั้นชิดจะไปว่าเขาก็ไม่ได้ ทุกคนทำงานแข่งกับเวลาหมด ตนจึงบอกว่าทุกวันนี้อย่าเร่งตัวเองจนเกินไป
“ดูสิ ฝ่ายขัดขวางยังไม่เห็นจะเร่งตัวเองเลย เวลาเดินหน้า มันก็หมดอำนาจไปเรื่อยๆ เขายังไม่เห็นเร่งเลย เราเร่งตัวเองเกินไป ดูอย่างประเทศสเปน เยอรมัน เบลเยียม ผมเชื่อว่า8พรรคร่วม เวลาผ่านไปอำนาจต่อรองเพื่อขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอีกฝ่ายก็ลดลงเรื่อยๆ รอวันสูญสิ้นอำนาจ” นายวิโรจน์ กล่าว และว่า
ภายใน 8 พรรคร่วมหากมีการกระทบกระทั่งกันบ้างก็ให้ลืมๆกันไป หากจุดยืนเรามั่งคง เชื่อว่าจะมีแรงหนุนของประชาชนและแรงกดดันทางการเมืองที่อยู่บนความชอบธรรมของ 8 พรรคร่วม ขอให้วางอคติต่อกัน เชื่อว่าไม่กี่สัปดาห์เราจะตั้งรัฐบาลได้
เมื่อถามถึงกรณีตอนนี้ สว. มีการหารือกับเรื่องจะไม่โหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เพราะไปหาเสียงว่าจะแก้ไขม.112 เช่นเดียวกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า “เห็นมั้ย คราวนี้มาเล่นนายเศรษฐาแล้ว มาเล่นพี่นิดของผมอีกแล้ว ผมถึงบอกไงว่า ปล่อยวางเถอะ คนเหล่านี้ ขัดขวางเสียงของประชาชน พออ้างเรื่องหนึ่งแล้วก็อ้างเรื่องสองไม่รู้จักจบจักสิ้น อย่างไปหวังพึ่งใคร หวังพึ่งพ่อผมดีกว่า ง่ายกว่า จุดธูปอธิฐานถึงพ่อผมเยอะๆ เดี๋ยวพ่อผมก็ช่วย”
เมื่อถามย้ำว่า นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ออกมาระบุว่าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีมีเพียง 2 คนคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หังหน้าพรรคภูมิใจไทย และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะทำแบบนั้น สมมติว่าพรรคเพื่อไทยให้ภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเอารวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐมาร่วม โดยสบโอกาสอ้างว่าจำใจต้องร่วม ตนคิดว่าอย่างไรก็โดนด่าอยู่ดี ประชาชนดูออกว่ามีการเตรียมการและไหลไปรวมกันภายหลัง สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็จะไม่ได้นายกรัฐมนตรี กระทรวงสำคัญก็จะไม่ได้ และยังโดนประชาชนด่าหนักกว่าเดิม
“ถ้าทำแบบนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วดึง2ลุงมาร่วมให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า แต่ผมเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยไม่ทำ ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับว่าทิ้งคนเสื้อแดงที่เป็นเพื่อนแท้ เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ให้กับคุณมานับ10ปีเชียวนะ ไม่มีใครรักพรรคเพื่อไทยเหนียวแน่นเท่ากับคนเสื้อแดงอีกแล้ว ยากมากคุณเฉือนเพื่อนคุณเพื่อเข้าสู่อำนาจ จะอ้างว่าเพื่อชาติอะไรก็แล้วแต่ ผมว่าฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว
ส่วนเมื่อถามวันที่ 4 ส.ค.จะได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะเจรจา แต่ถ้าไม่ได้ก็สู้ต่อ ตนคิดว่าไม่ได้สำคัญอะไร และเรื่องที่มโนกันว่ารัฐบาลรักษาการสิ้นสภาพ คือถ้าจะสิ้นสภาพหรือสิ้นหวังก็สิ้นหวังจากรัฐบาลเดิม ที่พาประเทศชาติไปถึงจุดต่ำสุด เพราะฉะนั้นการรักษาการ ใช้อำนาจจำกัดงบประมาณใหม่ก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว และหากเป๋ไปเป๋มาก็จะทำให้อีกฝ่ายตีกินได้ และในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) จะมีการประชุม สส.พรรคก้าวไกล ก็คงมีการหารือกันถึงประเด็นที่จะมีการปิดสวิตซ์ก้าวไกล ซึ่งตนก็ขอร้อง การวิเคราะห์อะไรต่างๆก็เป็นสิทธิของประชาชน แต่ก็ยังไม่มีมูลความจริงอะไร ที่เราต้องไปต่อว่าพรรคเพื่อไทย เราเองก็ต้องปกป้องพรรคเพื่อไทยด้วย
“หลายคนครั้นเนื้อครั้นตัวอยากจะด่ามาก ก็ขอให้เก็บไว้ก่อนก็ได้ รอให้มีมูลก่อนแล้วด่าก็ยังไม่สาย หลายคนออกตัวล้อฟรี” นายวิโจรน์กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า 14 ล้านเสียงของก้าวไกล กับ 11 ล้านเสียงของเพื่อไทย ก็มีอุดมการณ์ที่ใกล้เคียงกันมากๆ การที่พรรคเพื่อไทยอยู่ดีๆจะไปเลือกพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องถามว่า ภูมิใจไทยมีอุดมการณ์ใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยจริงๆหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าอุดมการณ์พรรคเพื่อไทยใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกล.