พท.ให้การบ้าน ก.ก.ตอบ แก้โจทย์ ส.ส.-ส.ว.รุมขวางโหวตนายกฯ “เศรษฐา”ยัน ไม่แตะ ม.112
พรรคเพื่อไทย ประชุมให้การบ้าน ก้าวไกล ตอบโจทย์ ปม.แก้มาตรา 112 พร้อมยื่นคำขาดให้ตอบโดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหา ส.ส.-ส.ว. รุมขวางโหวตนายกฯ จัดตั้งรัฐบาล “เศรษฐา” ลั่นไม่แตะ 112 ขณะกลุ่ม สส.อีสาน พท. เคลื่อนไหว ฉีก ‘เอ็มโอยู’ ทิ้ง
วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรค พท.ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลภายหลังไม่สามารถเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้อีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ว่าวันนี้จะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ส่วนจะมีความชัดเจนในการเสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ต้องรอข้อสรุปจากการประชุม
เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะทำอย่างไรไม่ให้ประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเป็นปัญหา นายเศรษฐากล่าวว่า มองว่าพรรคที่จะเสนอชื่อนายกฯครั้งต่อไปต้องไม่มีเรื่องของการแก้ไข หรือยกเลิกมาตรา 112 ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. รวมถึงพรรคการเมืองอื่น คณิตศาสตร์ค่อนข้างพื้นฐานมากๆ นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร
เมื่อถามว่า หาก พท.เป็นแกนนำแล้วไม่แตะมาตรา 112 ความสัมพันธ์กับพรรค ก.ก.จะเป็นอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจา แต่ส่วนตัวคิดว่าหากมีมาตรา 112 อยู่คงไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆ พรรค
ต่อมา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค ก.ก. เดินทางมาที่ทำการพรรค พท. ร่วมประชุมกับแกนนำพรรค พท.
เมื่อถามว่า ประเด็นหลักวันนี้ที่จะมีการพูดคุยกันในเรื่องอะไร นายชัยธวัชกล่าวว่า เป็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลต่อ เมื่อถามต่อว่า มีประเด็นที่ ส.ว.ไม่เอาพรรค ก.ก.ร่วมรัฐบาลและพรรค ก.ก.อาจจะถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งรีบสรุปประเด็นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พท.ว่า สำหรับวงหารือระหว่างพรรค พท.และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นั้น ตัวแทนของพรรค พท. ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค ขณะที่พรรค ก.ก. ประกอบด้วย นายชัยธวัช น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ก.ก. และ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ก.ก.
ในวงหารือ พรรค พท.ยืนยันว่ายังอยากจับมือกับ 8 พรรคร่วมที่มีเสียงรวมกัน 312 เสียง และพรรค ก.ก.ก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรค พท.ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่จากการประเมินผลการโหวตของรัฐสภาที่ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธารอบสองสะท้อนให้เห็นชัดว่า ส.ว.และ ส.ส.พรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้อยู่ใน 8 พรรคร่วม ไม่ยอมรับพรรค ก.ก. ถือเป็นการบ้านที่พรรค ก.ก.ต้องกลับไปคิดว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
แกนนำของพรรค ก.ก.ยินดีไปรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคในการแก้ปัญหาข้างต้น และนำกลับมาสะท้อนกับพรรค พท.ที่จะมีการหารือกันอีกครั้งในวันที่ 21 กรกฎาคม เพื่อพิจารณากำหนดทิศทางการร่วมมือในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป วันที่ 27 กรกฎาคม ให้ได้เสียงรัฐสภาเกิน 376 เสียงให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ชัดเจนว่าการเสนอชื่อนายพิธาไม่สามารถทำได้ ทำให้ ส.ส.ภาคอีสานพรรค พท.จับกลุ่มคุยกันว่า ถึงเวลานี้การจัดตั้งรัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้รัฐบาลใหม่เร็วที่สุด เพราะวันนี้ประเทศมีปัญหามาก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไข เมื่อพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคอันดับสองจึงต้องรับไม้ต่อและรีบดำเนินการ เพราะปัญหาประชาชนรอไม่ได้ หลังจากนี้คงต้องสลาย 8 พรรคร่วมรัฐบาล เพราะผลคะแนนที่ออกมาเห็นชัดว่ากลุ่ม ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับการให้พรรค ก.ก.เป็นรัฐบาล หากพรรค พท.จะตั้งรัฐบาลก็ต้องแยกตัวออกมา.