สรรพสามิตยัน! ปมจับเหล้าเถื่อน ‘ชอบธรรรม-ตรงหลักมนุษยธรรม’
สรรพสามิตยืนยันกรณีจับกุมสุราเถื่อน จ.แพร่ เป็นไปด้วยความชอบธรรม และปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมกรมสรรพสามิต
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษก กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานสรรพสามิต สังกัดสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ กรณีจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ขนสุราที่ผลิตขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้รถจักรยานยนต์และเกิดอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนกับรถยนต์ของทางราชการ จนเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ โดยระบุว่าเป็น การทำเกินกว่าเหตุ ใช้รถของทางราชการพุ่งเข้าชน นั้น กรมสรรพสามิต ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ ก่อนวันเกิดเหตุสรรพสามิตพื้นที่แพร่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการขนสุราที่ผลิตขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งลักลอบผลิตบริเวณป่าเขา เขตพื้นที่บ้านนาตอง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการขนสุราที่ผลิตได้ และจะทำการขนในกลางคืน ประมาณเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป โดยจะนำสุราซึ่งบรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกที่มีปริมาณน้ำ
สุราประมาณ 25 ลิตร และห่อหุ้มด้วยถุงผ้า วางไว้บริเวณหว่างขาของผู้ขับ จะมาตามเส้นทางถนนช่อแฮ – นาตอง เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปในตำบลช่อแฮและตำบลใกล้เคียง
สายตรวจสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าตรวจสอบจับกุม ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกำหนดจุดเพื่อทำการตรวจสอบ ณ บริเวณถนนสายช่อแฮ-นาตอง ห่างจากปากทางเข้าวัดพระธาตุดอยเล็ง ต.ช่อแฮ ประมาณ 150 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางชัดเจน จนเวลาประมาณ 22.50 น. เจ้าพนักงานฯ ได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งตามกันมา 2 คัน สังเกตเห็นลักษณะตามที่ได้รับแจ้ง จึงได้ส่งสัญญาณไฟเพื่อให้หยุด เมื่อรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 หยุดแล้ว เจ้าพนักงานฯ จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตขอตรวจสอบ โดยแยกกันตรวจสอบ คันแรก ผู้ขับขี่เป็นผู้หญิง คันที่สองผู้ขับขี่เป็นผู้ชาย ขณะทำการตรวจสอบรถคันที่สอง ผู้ขับขี่ได้เร่งเครื่องยนต์ย้อนกลับไปทางเดิม โดยมีเจ้าพนักงานฯ ได้พยายามคว้าจับรถจักรยานยนต์เพื่อให้หยุด แต่ไม่สามารถทำให้รถจักรยานยนต์หยุดได้ และทำให้ถุงผ้าขนาดใหญ่ จำนวน 1 ถุง ที่วางอยู่บริเวณหว่างขา ตกหล่นบนถนนห่างจากจุดหยุดรถประมาณ 6 – 8 เมตร เจ้าพนักงานฯ จึงวิ่งไล่ตามและส่วนหนึ่งได้ขับรถยนต์ราชการ ตามไปเพื่อแซงและส่งสัญญาณให้หยุด แต่ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้กระทำผิดเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของทางราชการบริเวณแก้มซ้ายและประตูหลังซ้ายของรถยนต์ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มลงและผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งบริเวณเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันห่างจากจุดตรวจสอบประมาณ 100 เมตร หลังจากนั้น เจ้าพนักงานฯ ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและได้ตรวจสอบถุงผ้าขนาดใหญ่ทั้ง 2 ถุง ปรากฏว่าเป็นสุรากลั่นชนิดสุราขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกห่อหุ้มด้วยถุงผ้า
ส่วนผู้ขับขี่ผู้หญิงทราบชื่อภายหลัง ชื่อนางสายพิน แผ่นทอง เจ้าพนักงานฯ จึงแจ้งแก่ นางสายพินฯ ว่าได้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และ แจ้งสิทธิตามกฎหมาย พร้อมนำตัวและของกลางส่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ สาขาเมืองแพร่ เพื่อดำเนินการต่อไป และผู้มีอำนาจเปรียบเทียบคดีได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 30,000 บาท ตามใบเสร็จรับเงินเล่มที่ 00089 เลขที่ 46 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 คดีที่ 20/2566
ส่วนกรณีชายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทราบชื่อภายหลังชื่อนายสมบัติ แผ่นทอง ซึ่งมีบางสื่ออ้างว่าเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพยายามแก้ปัญหาโดยการนำผู้บาดเจ็บและจักรยานยนต์ชำรุดออกจากที่เกิดเหตุโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่นั้น กรมสรรพสามิตขอชี้แจงว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเจ้าพนักงานฯ ได้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัย ณ ที่เกิดอุบัติเหตุทันที เพื่อให้มารับตัวนายสมบัติฯ ไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแพร่ โดยมีเจ้าพนักงานฯ ให้ความช่วยเหลือขึ้นติดตามไปกับรถกู้ภัยและอยู่ดูแลตั้งแต่เข้าห้องฉุกเฉิน จนนายสมบัติฯ ถูกส่งตัวขึ้นไปพักรักษาพยาบาลที่ตึกศัลยกรรมกระดูกชาย โรงพยาบาลแพร่ ในเบื้องต้นพบอาการบาดเจ็บที่บริเวณต้นขาซ้าย
สำหรับพนักงานขับรถยนต์ราชการได้ไปพบพนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรพระธาตุช่อแฮ ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 01.50 น.
หลังวันเกิดเหตุ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้มีการนำรถยนต์ของทางราชการที่เกิดอุบัติเหตุไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ เพื่อให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานการเกิดอุบัติเหตุ ร่องรอยการเฉี่ยวชนพร้อมรถจักรยานยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการตรวจยึดไว้ และเวลา 14.00 น. เจ้าพนักงานสรรพสามิตที่อยู่ในวันเกิดเหตุได้เดินทางไปชี้สถานที่เกิดเหตุ เพื่อจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมพนักงานสอบสวน
ทางด้านการช่วยเหลือดูแลผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางกรมสรรพสามิต ไม่ได้นิ่งดูดาย ได้มีเจ้าพนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่เข้าเยี่ยมด้วยความห่วงใย ณ โรงพยาบาลแพร่ พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ ให้ดูแลผู้บาดเจ็บได้ใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลจากประกันภัยด้วย
เบื้องต้นจากการที่เจ้าพนักงานฯ ได้พูดคุยผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่า นายสมบัติฯ เคยเป็น ผู้ได้รับอนุญาตให้ทำสุราชุมชนแต่ได้เลิกกิจการไปแล้ว ในส่วนของกลางสุรากลั่นบรรจุถุงพลาสติกและห่อหุ้มด้วยถุงผ้าที่ตกหล่นบนถนนนั้น ได้นำส่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ สาขาเมืองแพร่ เพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไป
“กรมสรรพสามิต ขอยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ ดังกล่าว เป็นไปตามหลักปฏิบัติในการเข้าตรวจสอบจับกุม และไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งได้ดูแลตามหลักมนุษยธรรมอีกด้วย อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตขอย้ำเตือนว่า การผลิตสุราเถื่อนมีความผิดทางกฎหมาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ จึงอยากรณรงค์ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง” นายณัฐกร กล่าวสรุป
หากผู้ใดพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต หรือพบการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1713 หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th.