อธ.อัยการคดีอาญาตลิ่งชันแจ้งความคืบหน้าคดีอดีตรองนายกฯ ชี้! หากยื่นฟ้องต้องขออนุญาต อสส.ก่อน
รองโฆษกอัยการ ฯ เผย! อธิบดีอัยการคดีอาญาตลิ่งชัน แจ้งความคืบหน้าคดีอดีตรองนายกฯแจ้งความเอาผิดอดีตสาวคนสนิทกับครอบครัวฉ้อโกง ชี้! ผัดฟ้องครบ 5 ครั้งตามกฎหมาย สิ้นสุด 15 ม.ค.นี้ แจง! พบหลักฐานยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ สั่งตร.สอบเพิ่ม หากอัยการยังไม่ได้รับผลสอบจนครบกำหนด เมื่อจะยื่นฟ้องต้องขออนุญาตจากอัยการสูงสุดก่อน
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจาก นายจิระประวัติ แบบประเสริฐ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน ถึงความคืบหน้า คดีอดีตรองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งแจ้งความดำเนินคดี กับอดีตสาวคนสนิท และครอบครัวรวม 4 คน ข้อหาฉ้อโกงต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ว่า คดีนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ได้ยื่นคำร้องผัดฟ้องผู้ต้องหาครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ครั้งที่ 2 วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ครั้งที่ 3 วันที่ 28 ธันวาคม 2565 ครั้งที่ 4 วันที่ 3 มกราคม 2566 และครั้งที่ 5 วันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นการฝากขังครั้งสุดท้าย สำหรับความผิดคดีแขวง ซึ่งสามารถยื่นคำร้องผัดฟ้องได้ 5 ครั้งๆ ละ 6วัน รวม 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันสุดท้ายวันที่ 15 มกราคมนี้ โดยพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน สรุปสำนวนส่งให้อัยการคดีอาญาตลิ่งชัน2 พิจารณาเมื่วันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานอัยการต้องพิจารณาสั่งคดีภายในวันที่ 15 มกราคมนี้ตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเมื่อพนักงานอัยการตรวจคำให้การและพยานหลักฐานในสำนวนแล้ว พบว่า คำให้การของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหายยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้ง 1 ในผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาให้อัยการพิจารณาด้วย ดังนั้น พนักงานอัยการจึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน สอบสวนเพิ่มเติมทั้ง 2 กรณี หากพนักงานอัยการยังไม่ได้รับผลสอบเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขันตามกำหนดเวลาแล้ว ถ้าอัยการจะยื่นฟ้องคดีก็จะต้องขออนุญาตฟ้องจากอัยการสูงสุดตามกฎหมายก่อนทั้งนี้ อัยการจะพิจารณาพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนโดยละเอียด รอบคอบ และให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความทั้งสองฝ่าย.