พาณิชย์ยันเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาล่าสุดไม่กระทบเพิ่ม มั่นใจเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ ต่อ

รมว.พาณิชย์เผยสถานการณ์ค้าชายแดนไทย–กัมพูชาดิ่งหนักหลังปิดด่านจากเหตุปะทะ ทำยอดค้าร่วงเกือบ 100% ช่วง 10 เดือนแรกติดลบกว่า 36% พร้อมประเมินเหตุปะทะครั้งล่าสุดไม่น่ากระทบเพิ่ม โดยเตรียมมาตรการช่วยผู้ประกอบการชายแดนและนักลงทุนไทยในกัมพูชา ส่วนการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ยังเดินหน้าต่อ แม้ถูกขอให้ชะลอชั่วคราว มองไทยไม่ได้เป็นฝ่ายผิด จึงไม่น่าถูกตั้งเงื่อนไขเพิ่ม
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการติดตามผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ว่าจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากเดิมมากน้อยแค่ไหน หลังจากเหตุการณ์ปะทะ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งได้มีดำเนินการปิดด่านไทยกัมพูชาไปแล้ว ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ลดลงต่อเนื่องไปแล้ว 99.99%
สำหรับตัวเลขการค้าชายแดนไทยกัมพูชา 10 เดือนแรกของปี มีมูลค่า 95,554 ล้านบาท ติดลบ 36.68% ในจำนวนนี้ส่งออก 72,844 ล้านบาท ติดลบ 38.43% ส่วนการนำเข้า อยู่ที่ 22,710 ล้านบาท ติดลบ 30.32%
เฉพาะเดือนตุลาคมเดือนเดียว มีมูลค่าอยู่ที่ 9 ล้านบาท ติดลบ 99.94% แยกเป็น ส่งออก 9 ล้านบาท ติดลบ 99.93% นำเข้า 320,000 บาท ติดลบ 99.99 %
เบื้องต้นประเมินว่า เหตุการณ์ปะทะครั้งล่าสุดน่าจะไม่มีผลกระทบที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญหลังจากนี้ คือ การดูแลผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบริเวณแนวชายแดน ซึ่งเรื่องนี้ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะช่วยเหลือโดยนำสินค้าจากผู้ผลิตในแหล่งเจ็ดจังหวัดจัดจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมของกระทรวงพาณิชย์ เช่น มหกรรมท้องฟ้าในภาคอื่นๆ
ขณะที่ การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ลงทุนในกัมพูชา ทางกระทรวงการคลังเตรียมที่จะออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง , การโอนย้ายเครื่องจักร เครื่องมือ โดยไม่เสียภาษี
สำหรับความวิตกกังวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อการเจรจาภาษีสหรัฐที่อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด ในส่วนที่ไม่ใช่ของภาษีและมีเป้าหมายอยากให้ได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ โดยส่วนตัว “ไม่กังวล” เพราะมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายผิด และไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยไทยจะยังดำเนินการเจรจาต่อไปในช่องทางต่างๆ แม้ว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐจะส่งหนังสือมาระงับการเจรจาชั่วคราวไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์ความขัดแย้งจะยุติลง ซึ่ง ทางทีมไทยแลนด์ได้ส่งหนังสือยืนยัน ว่ายังมีความประสงค์ที่จะเจรจาต่ออยู่
ทั้งนี้เมื่อยังไม่มีการได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาหรือเซ็นข้อตกลงถือว่าไทยก็ยังคงมีความยืดหยุ่นทางการค้า ผลกระทบเพียงอย่างเดียวที่ไทย ได้รับในขณะนี้คือ “ความไม่แน่นอน” ต้องจับตาสถานการณ์หลังจากนี้ต่อไป ขณะเดียวกันอาจเป็นประโยชน์
ทั้งนี้ การไม่ได้ข้อสรุปโดยเร็วอาจเป็นประโยชน์กว่าเพราะจะได้เทียบเคียงผลที่มาเลเซียและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงแล้ง เพื่อให้ไทยไม่เสียประโยชน์ นอกจากนี้ ศาลฎีกาสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการไต่สวนว่าคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชอบหรือไม่ และการเจรจาไทยสหหรัฐฯไม่น่าเกี่ยวกับเหตุปะทะไทยกัมพูชาและเห็นว่าสิ่งที่ไทยตอบโต้เป็นไปด้วยความสมเหตุสมผลทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและสหรัฐฯน่าจะเข้าใจและไม่ตั้ฃเงื่อนไชเพิ่มกับไทยแม้จะไม่สามารรถผลการเจรจาได้ในสิ้นปีนี้ ไม่น่ามีผลอะไรไปมากกว่านี้ เพราะอัตราภาษีถูกเรียกเก็บไปแล้ง.






