มนต์ดำ – เงินสกปรก – เกมการเมือง!!??

“มนต์ดำ – อำนาจเงินสกปรก” ส่อคุกคามการเมืองไทย? มากกว่าการซื้อเสียง แต่ลึกถึงการซื้อ “อำนาจรัฐ” ทั้งระบบ! คำเตือน “เลือกตั้งด้วยเงินทุนสีดำ” จาก “รังสิมันต์ โรม” ไม่ไกลเกินความจริง เห็นชัด! กับปรากฏการณ์ “นักการเมือง – ทุนธุรกิจสีเทา” ที่กำลังเป็นข่าวหน้า 1 น่าสนใจว่า…“รัฐบาลอนุทิน” จะวางกลยุทธ์ “ตัดวงจรทุนเทา-ดำ” ได้แค่ไหน? ก่อนที่เสียงประชาชนจะถูกกลืนไปกับเล่ห์มนต์ดำนี้

คำเตือนของ นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ดังขึ้น! กลางสภาผู้แทนราษฎร เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเตือนว่า

“การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ได้มีแค่ สีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน แต่อาจมี สีดำ เข้ามาด้วย”

เสียงนั้น…ไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยธรรมดา แต่เป็นการ…ส่งสัญญาณเตือนถึงอันตราย ที่ว่า “เงินสกปรก” จากธุรกิจผิดกฎหมาย…แกมเมอร์ พนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ ยาเสพติด!!! กำลังจะกลายเป็น “พลังเงาด้านมืด” ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

หรืออีกไม่ถึง 3 เดือนนับจากนี้

เงินเหล่านี้…ไม่แค่ซื้อตัวผู้สมัคร แต่ซื้อนโยบาย ซื้อระบบ และซื้อความเงียบของสังคม

นายรังสิมันต์ โรม คนที่เกาะติดธุรกิจผิดกฎหมายมาตลอด ชี้ว่า…นี่คือกลไกใหม่ของ “ทุนเทา” ที่พรางตัวในรูปบริษัท อสังหาฯ หรือธุรกิจสื่อ ก่อนจะขยายอิทธิพลเข้าครองสภาฯ ผ่านการสนับสนุนพรรคการเมือง หรือแม้แต่ตั้งพรรคของตนเองขึ้นมา

รัฐบาลภายใต้ การนำของ นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล รับรู้สัญญาณนี้ดี และประกาศจุดยืนแข็งกร้าว “ไม่เอาพนัน ไม่สนับสนุนคาสิโน ไม่เอาออนไลน์” พร้อม สั่งรื้อแนวนโยบายที่เคยเปิดช่องให้เกมพนันแฝงตัวในรูป “กีฬาโป๊กเกอร์” กลับไปอยู่ในหมวดต้องห้ามเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน รัฐบาลชุดนี้ ได้เร่งยุทธศาสตร์ “ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” สั่งหน่วยงานความมั่นคง ประสาน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ ตำรวจไซเบอร์ บูรณาการปราบเครือข่ายพนันออนไลน์ บัญชีม้า และเส้นทางฟอกเงินข้ามชาติ ที่ใช้ชายแดนไทยเป็นทางผ่าน

ตามมาด้วย แนวทางที่ รองนายกฯ เอกนิติ นิติธนานุการ ได้เคลื่อนไหว “คู่ขนาน” ใน สมรภูมิการเงิน ด้วยการปรับนโยบายสวัสดิการเพื่อลดแรงจูงใจการเสี่ยงโชค เช่น โครงการ “หวยดิจิทัลสู่เงินออม” ซึ่งสะท้อนความพยายาม เปลี่ยนพฤติกรรมเศรษฐกิจครัวเรือน จาก “หวังรวยทางลัด” สู่ “ออมระยะยาว”

นโยบายข้างต้น…อาจดูนุ่มนิ่!!! แต่ที่จริงแล้ว มันคือ…“หมากสำคัญ” ในทางยุทธศาสตร์ กับแผนการ “ตัดราก” วัฒนธรรมเงินเร็ว ซึ่งเป็น “เชื้อไฟ” ของพนันและสแกมเมอร์

แต่ยังคงมี…คำถามใหญ่ รออยู่! นั่นคือ…มาตรการเหล่านี้ มันเพียงพอ และจะรับมือกับ “ทุนสีดำ” ได้หรือไม่???

ในเมื่อ “เงินทุนสกปรก” เหล่านี้ มันไม่ได้อยู่แค่ใน…คาสิโนหรือเว็บพนัน แต่อยู่ใน “กฎหมาย นโยบาย และอำนาจต่อรอง” ที่ ฝังราก!ในระบบการเมืองของไทยมาเนิ่นนาน

เงินดำและทุนเทาไม่เคยต่อสู้แบบตรงๆ แต่มักอาศัยการ แทรกซึม กลืนกลาย และซื้อความชอบธรรม ทีละน้อย พวกเขารู้ดีว่า…

ถ้าพวกเขา…หลุดเข้าไปในสภาฯได้ ก็ไม่ต้องหลบตำรวจอีกต่อไป!!!

ปรากฏการณ์ “คนรุ่นใหม่…รวยพุ่งภายใน 2–5 ปี หลักร้อยล้านถึงพันล้าน” สะท้อน “ช่องโหว่” ของระบบการตรวจสอบ เพราะเมื่อ “เส้นเงิน” ไม่ถูกเปิดเผย และหน่วยงานกำกับยังไม่เข้มพอ

เงินดำและทุนเทา จึงใช้…กลยุทธ์เรียบง่าย แต่ร้ายแรง! นั่นคือ…การ “ฟอกตัว” ด้วยภาพใหม่ ความเป็น…นักลงทุน…ผู้บริจาคในทางการเมือง กับสร้างภาพลักษณ์ “คนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์” ก่อนจะ เปลี่ยน…สนามการเมือง เป็น สนามธุรกิจของตัวเอง

ในอีกมุมหนึ่ง การต่อสู้ของฝ่ายรัฐ…ก็ยังคงติด “กับดัก” กับระบบราชการ ไม่ว่าจะเป็น…การตรวจสอบช้า ข้อมูลแยกส่วน และขาดเครื่องมือเชิงดิจิทัล ที่สามารถตามเส้นทางเงินได้ทันสมัย

แม้ รัฐบาลอนุทิน จะประกาศจะ “ปราบทุนเทาให้สิ้นซาก!” แต่หาก “ข้อมูล” ของเจ้าของผลประโยชน์ที่แท้จริง…ยังเปิดเผยได้ไม่ครบ 100% และ ระบบพรรคการเมือง…ยังไม่โปร่งพอ

ชัยชนะของฝ่ายรัฐ…ก็ยังคงเป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น!!!

สงครามนี้…จึงไม่ใช่แค่เรื่องการปราบปราม แต่คือ “ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางการเมือง” ที่จะต้องมีทั้ง การบังคับใช้กฎหมาย การควบคุมทุน และ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนในเวลาเดียวกัน

รัฐบาลจะต้องคิดแบบเกมยาว??? เพราะ “ทุนสีดำ” มีเวลาและวงเงินที่ไม่จำกัด ต่างจากภาครัฐ…ที่มักหมดไฟกลางทาง ไปเสียก่อน…

“มนต์ดำ – อำนาจเงินสกปรก” ไม่เพียงซื้อคน แต่มันจะซื้อศรัทธาของประชาชน และนักการเมือง!!!

เมื่อ…ศรัทธาถูกซื้อ ประชาธิปไตย ก็เหลือแต่เปลือก!!??

“รัฐบาลอนุทิน” กับเวลาที่เหลือไม่ถึง 3 เดือน จึงต้องทำมากกว่าการ “จับคนผิด” แต่จะต้อง “ตัดระบบ” ที่เปิดช่องให้คนกลุ่มนี้…กลับมาทำผิดได้ซ้ำซาก!!!

พรรคการเมือง…ต้องกล้าปฏิเสธเงินที่มีกลิ่น? ไม่ว่าจะหอมเพียงใด? เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ของคนกลุ่มนี้ ล้วนมีที่มาจาก “เงามืด” และจะแปรเปลี่ยนเป็น…หนี้ทางศีลธรรมของการเมืองทั้งระบบ

สำหรับ คนไทย…ผู้เป็นเจ้าของคะแนนเสียง ต้องรู้เท่าทันว่า…เงินที่มาซื้อเสียงคุณวันนี้ จะกลับมา “ซื้ออนาคต” ของลูกหลานคนไทยในวันข้างหน้า

ดังนั้น จึงอย่าได้ปล่อยให้คะแนนเสียงของเรา กลายเป็น “สินค้าราคาถูก” ที่วางแบขายอยู่ในตลาดมืดทางการเมือง

ขอให้ ทุกการตัดสินใจ “กา” เพื่อเป็นคะแนนเสียงในทางการเมือง ถูกเลือกด้วยข้อมูล ไม่ใช่พิจารณาจาก…แบงก์ร้อยหรือแบงก์พัน???

และต้องตั้งคำถามตัวโตๆ กับทุกพรรคการเมือง…ที่ใช้เงินมากกว่าจะโชว์นโยบายในทางการเมือง ในทำนอง…

“พวกคุณทำสิ่งนี้…เพราะหวังผลในสิ่งใด???”

อย่าปล่อยให้ “เงินสกปรก” ที่ใช้ได้แค่เพียง 1-2 วัน ก็หมดไปแล้ว แต่…ย้อนกลับมาทำลายระบอบประชาธิปไตย ระบบการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะที่สุดแล้ว…

มันจะไหลกลับมาทำลายและทำร้าย…ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย

จำไว้!!??…“มนต์ดำ – อำนาจเงินสกปรก”จะทำงานได้ ก็ต่อเมื่อสังคมไทย…ยอมให้มันครอบงำ!!!
แต่หาก ภาครัฐได้สร้างระบบที่รับมือกับ “ทุนสีเท่าและเงินสีดำ” อย่างเหมาะสมและเท่าทัน

ขณะที่ พรรคการเมือง ต่างก็มีกรอบจริยธรรมแห่งความดีงาม

โดยที่ ประชาชนคนไทย…ต่างก็มีสติ ยึดหลักการความถูกต้องและความดีงาม เป็นเกณฑ์การตัดสินใจในทางการเมือง แล้วล่ะก็…

มนต์ดำ…เหล่านั้น ก็อาจจะสลายลงได้ในพริบตา…
“เงินสกปรก” จะไร้พลังและอำนาจชี้นำ รวมถึง มิอาจจะครอบงำใดๆ ได้!…ตราบใด? ที่ประเทศไทย ยังมี “คนสะอาด” มากพอต่อต้านพวกมัน!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password