‘โกลเบล็ก’ คัดหุ้น 2 กลุ่มเด็ดน่าลงทุน ‘กลุ่มอาหาร-โรงไฟฟ้า’

โกลเบล็ก ประเมินดัชนี SET สัปดาห์นี้ยังเผชิญแรงกดดันจาก DELTA ที่อยู่ภายใต้มาตรการ Trading Alert T1 ด้าน FED ยังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย แม้ FedWatch Tool ชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์สูงถึง 94.6% ว่า FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนต.ค.นี้ จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอ หลังภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการคลัง มองดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,270–1,300 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้น“กลุ่มอาหาร รับอานิสงส์ค่าบาทอ่อน และหุ้นโรงไฟฟ้าลุ้นเปิดประมูลโครงการนำร่อง Direct PPAปลายปีนี้

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,270–1,300 จุด ท่ามกลางแรงกดดันจากหุ้น DELTA ที่ยังอยู่ภายใต้มาตรการ Trading Alert T1 ส่งผลให้เกิดแรงขายต่อเนื่องในกลุ่มเทคโนโลยี

ขณะเดียวกัน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังไม่ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ทำให้ตลาดขาดปัจจัยบวกจากฝั่งต่างประเทศ แม้ว่า FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 94.6% ในการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศยังมีน้ำหนักต่อการพยุงดัชนี โดยเฉพาะการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ซึ่งอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาในสัปดาห์นี้ ส่วน “มาตรการคนละครึ่งพลัส” ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 และเริ่มทยอยใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568 นั้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 เติบโต และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและสนับสนุนธุรกิจภาคการค้าและบริการ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในภาวะชัตดาวน์อย่างยืดเยื้อ ขณะที่การเจรจาระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตเกี่ยวกับร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราวยังไม่มีความคืบหน้า ส่งผลให้ตลาดขาดความมั่นใจในเสถียรภาพทางการคลังของประเทศมหาอำนาจ

ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวเปิดการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชน โดยไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจหรือทิศทางนโยบายการเงินของ FED แต่อย่างใด ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก

ด้านเศรษฐกิจไทย ธนาคารซิตี้แบงก์คาดการณ์ว่า GDP ปี 2568 จะเติบโตเพียง 2.2% ก่อนจะชะลอลงเหลือ 1.6% ในปี 2569 จากแรงกดดันด้านการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว การลงทุนภาคเอกชนที่ยังจำกัด และภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับสู่ระดับศักยภาพที่คาดหวัง และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ประเมินว่า GDP ไทยปีนี้จะเติบโตเพียง 2% โดยครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 3% แต่ครึ่งปีหลังคาดว่าจะโตเฉลี่ยเพียง 1% โดยเฉพาะในไตรมาส 3 และ 4 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.7% และ 0.3% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ วันที่ 14-21 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวดไตรมาส 3/2568, สัปดาห์ที่ 2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ยังเฝ้าติดตาม อาทิ วันที่ 14 ต.ค. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนต.ค., สหรัฐรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.ย., วันที่ 15 ต.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และดัชนี ราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ญี่ปุ่น รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., อียู รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต.ค.ในช่วงเช้าวันที่ 16 ต.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ รายงานสรุป ภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book, วันที่ 16 ต.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ดัชนีการผลิตเดือนต.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.

ายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มอาหารรับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ CPF, TU, ITC, BTG, TFG ส่งผลให้ราคาหุ้นคึกคัก และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้อานิสงส์รัฐบาลไฟเขียวโครงการนำร่อง Direct PPA ดึงต่างชาติลงทุน Data Center และอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด คาดเปิดประมูลในเดือนธันวาคม 2568 โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ได้แก่ GULF, BGRIM, GPSC, EGCO, RATCH.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password