7-11 : ทูตวัฒนธรรม – ท่องเที่ยวไทย

นักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน! ร้านเซเว่นฯในไทย มิต่างจาก “ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” ของประเทศไทย กับ “จุดเด่นและจุดแข็ง” ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้มี ย่อมก่อประโยชน์ในมิติต่างๆ ต่อภาครัฐ หากรู้จักใช้และใช้เป็น…ว่าแต่ “นายกฯอนุทิน” จะมองเห็นและใช้โอกาสที่ดีอย่างนี้…เป็นหรือไม่???.

นาทีนี้ คนไทย…มี “รัฐบาลใหม่” และ “นายกฯใหม่” ลำดับที่ 32 ไปแล้ว แม้ เงื่อนไข 5 ข้อตาม MOA นั้น“รัฐบาลอนุทิน” จะอยู่บริหารประเทศได้สั้นๆ เพียงแค่ 4 เดือน หลังจากดำเนินงานตามเงื่อนไขข้างต้น จำต้อง ยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน ก็ตาม…

กระนั้น คนไทยหลายคน ก็ยังจะฝากความหวัง กับ “จุดเริ่มต้นดีๆ” ที่ “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” เตรียมปัดฝุ่น นำเอา โครงการ “คนละครึ่ง” มาช่วยเหลือคนไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในยามนี้ อย่างน้อย โครงการนี้…ก็เคยสร้าง “ผลลัพธ์ที่ดี” ในอดีต ช่วย...กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้จริง มีเงินหมุนเวียนในระบบจริง และ “ประชาชนได้ใช้จริง”

หาใช่…คำสัญญาที่สวยหรู แต่ไม่สามารถทำได้จริงในทางปฏิบัติ!!!

ท่ามกลางเวลาที่จำกัดในทางการเมือง อีกด้านหนึ่ง…ฝั่งเอกชนเอง ก็ปูทางสร้างฐานที่มั่น ไม่เฉพาะกับธุรกิจของตัวเอง หากแต่ยังช่วยต่อยอด…สร้างภาพลักษณ์ที่ดีงามต่อประเทศไทย จน นักท่องเที่ยวต่างชาติ และองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง ยกให้…ธุรกิจเอกชนรายนี้ คือ “ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น” มิต่างจาก….

ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของประเทศไทย!!??

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? และรัฐบาลชุดใหม่…จะใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น” ที่มีจำนวนสาขารวมกันมากราว 15,430 สาขา (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2025) กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

ในสายของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยว แล้ว ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทย มิได้เป็นเพียง “ร้านสะดวกซื้อ” ที่คอยให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากแต่ได้ “ก้าวข้าม” ขอบเขตของการเป็นธุรกิจค้าปลีก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “วิถีชีวิตประจำวัน” ของคนไทยไปแล้ว

และ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ยังเป็น “ภาพสะท้อนทางวัฒนธรรม” ที่ชาวต่างชาติรู้จักและจดจำ! เมื่อเดินทางมาถึงเมืองไทย

ในสายตาของ นักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้ว ร้านเซเว่นฯ ถือเป็น “ประสบการณ์” ที่ทำให้พวกเขาได้สัมผัสและรับรู้ถึงความเป็นระเบียบ ความสะดวก ความอบอุ่น และความปลอดภัย ตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

ร้านสะดวกซื้อฯ ภายใต้การบริหารของ บมจ.ซีพี ออลล์ พร้อมจะมอบ “ประสบการณ์ดีๆ” ให้แก่ผู้มาเยือน จึงไม่แปลก! หากชาวต่างชาติจะมองร้านเซเว่นฯ ว่าเป็น…“ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” อย่างไม่เป็นทางการ ที่สามารถจะช่วยสื่อสารภาพลักษณ์ของประเทศไทย…ในมิติที่จับต้องได้

สิ่งที่โดดเด่นที่สุด! และถูกกล่าวถึงเสมอจากนักท่องเที่ยว นั่นคือ…จำนวนสาขาที่มีมากมาย และกระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยวสำคัญ หรือแม้แต่ชุมชนขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวหลายคน ยืนยันว่า…ไม่ว่าพวกเขาจะเดินทางไปที่ใด? ก็จะสามารถพบเจอร้านเซเว่นฯ ได้ภายในระยะไม่กี่นาที

ทำให้เกิดความมั่นใจว่า…พวกเขา (นักท่องเที่ยวต่างชาติ) มี “ที่พึ่งพา” อยู่ใกล้ตัวเสมอ!!!

ลักษณะดังกล่าวทำให้ ร้านเซเว่นฯ ในไทย กลายเป็นความแตกต่างจากสาขาในประเทศอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด จนมี นักท่องเที่ยวต่างชาติ บางคน กล่าวเปรียบเปรยในทำนอง…

7-Eleven in Thailand isn’t a shop anymore, it’s a personality trait”  (เซเว่นอีเลฟเว่นในประเทศไทยไม่ใช่เพียงร้านค้าอีกต่อไป แต่กลายเป็นบุคลิกทางสังคมที่สะท้อนวิถีชีวิตคนไทย)

คำกล่าวนี้ ได้สะท้อนความรู้สึกที่ว่า…ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ ได้ผสานเข้ากับชีวิตและวัฒนธรรมอย่างแนบแน่นจนไม่อาจแยกออกจากภาพรวมของสังคมไทย

ความประทับใจอีกด้านที่ทำให้ ร้านเซเว่นฯในไทย กลายเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในทัศนคติของชาวต่างชาติ นั่นคือ…ความหลากหลายของสินค้า และมีราคาที่สมเหตุสมผล

มุมมองของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะ กลุ่มผู้มาจากประเทศที่มีค่าครองชีพสูงกว่าไทย ต่างยอมรับโดยดุษฎีว่า… อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าในร้านเซเว่นฯในไทย “มีราคาถูกและเข้าถึงง่าย” อีกทั้ง “ยังมีคุณภาพ มีรสชาติที่ดี และหลากหลาย”

เมนูอย่าง “แซนด์วิชอบร้อน (toastie)” กลายเป็นสิ่งที่คุณคนต้องลอง และมี ผู้เดินทางจำนวนไม่น้อย ที่ยอมรับว่า…“เมื่ออยู่เมืองไทย แล้วต้องลอง toastie ของเซเว่นฯ”

การจัดวางสินค้าในชั้นวางขอบอย่างเป็นระบบ ทำให้การเลือกซื้อเป็นเรื่องสะดวก รวดเร็ว และสร้างความประทับใจด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสายตาต่างชาติ ไม่เพียงเท่านั้น บรรยากาศภายในร้านเซเว่นฯ ยังมีผลอย่างยิ่งต่อการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทย กับการ จัดแสงไฟที่สว่างสะอาด การควบคุมอุณหภูมิด้วยเครื่องปรับอากาศที่เย็นสบาย และพื้นที่ที่ได้รับการดูแลให้เรียบร้อยอยู่เสมอ

นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า… 7-Eleven ในไทยเป็นสถานที่พักผ่อนระหว่างการท่องเที่ยว” ทำให้พวกเขาคลายร้อนและรู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในทันที!

คำชมเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่า…เพียงการเข้ามาใช้บริการร้านสะดวกซื้อ นักท่องเที่ยวก็สามารถรับรู้ถึงความเอาใจใส่และการต้อนรับแบบไทยไทยได้แล้ว…

ใน มิติด้านการบริการ, พนักงานเซเว่นฯในไทย ต่างถูกยกย่องว่า…มีความสุภาพ เป็นมิตร และเต็มใจให้ความช่วยเหลือกับลูกค้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็น…นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อาจสื่อสารไม่คล่อง หรือคนท้องถิ่นที่คุ้นเคยกับบริการอยู่แล้ว

“คำทักทาย” ที่คุ้นหูผู้คนทั่วไป ว่า...“สวัสดีค่ะ/ครับ…ยินดีต้อนรับ” ที่ พนักงานร้านเซเว่นฯ กล่าวอย่างสม่ำเสมอ กลายเป็น “วลีเด็ด!” ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ หยิบยกมาพูดถึงและจดจำ จนเป็น “มีม” ทางวัฒนธรรม กันไปแล้ว

เสียงทักทายเหล่านี้ มิได้เป็นเพียง “มารยาทเชิงธุรกิจ” หากแต่ยังสะท้อนถึง…ความเป็นมิตรและไมตรีจิตแบบไทยๆ ที่นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ทันที! ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในร้าน…

นอกจากนี้ ร้านเซเว่นฯยังมีบทบาทโดยอ้อม ในการช่วยเหลือด้านสาธารณะและความปลอดภัยของสังคม ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนงานภาครัฐ อย่างไม่เป็นทางการ ตัวอย่างเช่น…

การร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว ในการจัดตั้ง “จุดรับแจ้งเหตุ” สำหรับนักท่องเที่ยวในสาขาที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รวมถึง การติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัยภายในร้านฯ ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในยามที่ต้องการความปลอดภัย

อีกทั้งในหลายกรณี พนักงานยังช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยเฉียบพลันหรืออุบัติเหตุเบื้องต้น ซึ่งทำให้ ภาพลักษณ์ของร้านเซเว่นฯ เชื่อมโยงกับคำว่า “ที่พึ่งได้” อย่างแท้จริง

เมื่อพิจารณาจาก บทบาทเชิงสังคมและวัฒนธรรม ดังกล่าว จึงเป็นประเด็นที่ควรถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใน เชิงนโยบายสาธารณะ ว่า…

ภาครัฐ หรือฝ่ายการเมือง รวมถึงหน่วยงานราชการต่าง ๆ ควรจะวางแผนและใช้ร้านเซเว่นฯ เป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนงานหรือไม่???

หากมองใน มิติการท่องเที่ยว การใช้…เครือข่ายเซเว่นฯ ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ เป็น Tourist Information Point” หรือ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเบื้องต้น จะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ตลอดเวลา

ในด้าน ความปลอดภัย ร้านเซเว่นฯ สามารถทำหน้าที่เป็น Safe Zone” ที่ นักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไปเข้ามาขอความช่วยเหลือได้

ในด้าน สาธารณสุข ภาครัฐสามารถบูรณาการการใช้ร้านเป็นพื้นที่รณรงค์สุขภาพ การให้ข้อมูลการป้องกันโรค หรือแม้กระทั่งเป็น จุดกระจายเวชภัณฑ์เบื้องต้นที่มีการควบคุมอย่างถูกต้อง

และในด้าน สิ่งแวดล้อม ร้านเซเว่นฯ ก็สามารถจะเป็น “พันธมิตร” ในโครงการ ลดขยะพลาสติกและรีไซเคิล ได้อย่างเป็นรูปธรรม

การที่ภาครัฐจะเข้ามาสนับสนุนร้านเซเว่นฯ มิได้หมายถึง…การส่งเสริมให้กับธุรกิจรายใดรายหนึ่งเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นการวางระบบความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน (Public–Private Partnership: PPP) เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงสังคมและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

รัฐบาลอาจสนับสนุน ด้วยการ “กำหนดมาตรฐาน” ร้านสะดวกซื้อเพื่อการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ แลกกับการให้ แรงจูงใจทางภาษีแก่สาขาที่เข้าร่วมโครงการเพื่อสังคม

จัดการฝึกอบรมพนักงานด้านการต้อนรับและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึง การใช้พื้นที่ภายในร้านเพื่อสื่อสารนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เช่น มาตรการความปลอดภัย การป้องกันโรคระบาด หรือการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น…

ท้ายที่สุด! บทบาทของ ร้านเซเว่นฯ ในประเทศไทย ได้พิสูจน์แล้วว่า…พวกเขาไม่ใช่เพียงธุรกิจค้าปลีก!!! แต่คือ…โครงสร้างพื้นฐานที่ฝังรากอยู่ในวิถีชีวิตของสังคมไทย และเป็นช่องทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ถึงวัฒนธรรมไทยในเชิงบวก

หาก ภาครัฐ โดยเฉพาะ “รัฐบาลใหม่” ภายใต้การนำของ “นายกฯอนุทิน” ที่มีเวลาบริหารประเทศ ได้ไม่นานนัก สามารถจะ…บูรณาการร้านเซเว่นฯ เข้ากับการดำเนินนโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น…ด้านการท่องเที่ยว ความปลอดภัย สาธารณสุข หรือสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ก็จะเป็นการสร้างประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ทั้งการ “ยกระดับ” ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว การสนับสนุนธุรกิจเอกชนให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม และ การสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทย ในฐานะ “ประเทศที่มีความพร้อม ยินดีต้อนรับ และมีระบบสนับสนุนที่เข้มแข็งในทุกมิติ”

นาทีนี้…ร้านเซเว่นฯ จึงมิใช่เพียงร้านสะดวกซื้อ แต่คือ“ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของไทย” ที่มีส่วนร่วมอย่างสำคัญต่อการส่งเสริม…ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศไทย…ให้ดังกึกก้องกู่ไกลในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและมนุษยชาติบนโลกใบนี้

ว่าแต่…“นายกฯอนุทิน” จะมองเห็นและใช้โอกาสที่ดีอย่างนี้…เป็นหรือไม่???.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password