Thailand–China Cooperation Expo 2025 ‘50 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน ดันไทยสู่ Global Supply Chain Hub’


นายเจียง เว่ย อัครราชทูตที่ปรึกษาสำนักงานเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมด้วย ดร. พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย–จีน, นายหลิว ฉวนเหลย นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในไทย และ นายทวีศักดิ์ ธีระเกียรติกำจร ที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเมจเม้นท์ จำกัด ภายใต้ “คณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน” ร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดงาน Thailand–China Cooperation Expo 2025 ระหว่างวันที่ 26–28 กันยายน 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “50 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน : ก้าวสู่ความรุ่งเรืองร่วมกัน” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น ศูนย์กลางห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain Hub) และขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมอนาคตในทุกมิติ

ทั้งนี้ Thailand–China Cooperation Expo 2025 ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองวาระแห่งประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย–จีน แต่ยังเป็นเวทีเชิงยุทธศาสตร์ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยในระยะสั้นงานดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจผ่านการเจรจาธุรกิจ การลงทุน และการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบริการที่เกี่ยวเนื่อง ขณะเดียวกันในระยะยาวจะช่วยยกระดับบทบาทของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอนาคต อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของจีนและเศรษฐกิจโลก ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ตลอดระยะเวลา 3 วัน อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมระดับนานาชาติที่สะท้อนถึงความร่วมมือไทย–จีนในทุกมิติ ทั้งด้าน การค้า การลงทุน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงนวัตกรรม ซึ่ง หนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างบริษัทชั้นนำของไทยและจีน รวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งการซื้อขายสินค้าและการร่วมทุน
ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่ายธุรกิจใหม่ และขยายการลงทุนระหว่างสองประเทศ

นอกจากนั้น ภายในงานยังมีกิจกรรม Supply Chain Forum และ เวที Business Matching ซึ่งออกแบบมาเพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้เจรจาเชื่อมโยงธุรกิจ โดยเฉพาะในสาขาที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจยุคใหม่ เช่น ยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV), พลังงานหมุนเวียน, ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และ นวัตกรรมด้านเกษตร–อาหาร เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยและจีนร่วมกันสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่มีความยั่งยืนแข่งขันได้ สอดคล้องกับเป้าหมายเศรษฐกิจสีเขียวและดิจิทัลในอนาคต
ในด้านการพัฒนากำลังคน ยังได้มี การจัด Job Fair Zone ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และ บริษัทชั้นนำไทย–จีน เปิดรับสมัครงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมสายงานที่กำลังเป็นที่ต้องการสูง เช่น วิศวกรรม, ดิจิทัล, โลจิสติกส์ และบริการสมัยใหม่ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานโลก ขณะเดียวกัน ยังมี Education Fair Zone ที่มอบโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะใหม่ โดยเปิดให้ทุนการศึกษากว่า 400 ทุน จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของทั้งสองประเทศ เพื่อปั้นบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมอนาคต

นอกเหนือจากกิจกรรมด้านธุรกิจและการศึกษาแล้ว ยังมี สัมมนาเฉพาะด้านและเสวนาระดับสูง โดยเชิญ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และผู้นำองค์กรทั้งไทยและจีน มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และมุมมองเชิงกลยุทธ์ต่อความท้าทายของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ รวมถึง การจัดงาน Gala Dinner เพื่อสะท้อนถึงความผูกพันและมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่สืบทอดต่อเนื่องมากว่า 5 ทศวรรษ ตอกย้ำ ภาพลักษณ์ความเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่หยั่งรากลึกในทุกระดับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนของทั้งสองประเทศ
“งาน Thailand–China Cooperation Expo 2025 ถือเป็นมหกรรมครั้งประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของไทย–จีนตลอด 50 ปีที่ผ่านมา และจะเป็น “จุดเริ่มต้น” ของ ความร่วมมือเชิงลึกในยุคใหม่ ไม่เพียงเป็นเวทีสำคัญด้านการค้าและการลงทุน แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่เปิดประตูสู่อาชีพ การศึกษา และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Global Supply Chain Hub ได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน” คณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน ระบุ.