วูบ!!??

นาทีนี้ “การลาออก!” ของ “นายกฯแพทองธาร” ไม่ใช่คำตอบของการเมืองไทยยามนี้อีกแล้ว??? สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั่นคือ ไม่ว่าผลลัพธ์ของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และคดีความที่อยู่ในมือของ ปปช. ที่จะมีตามมาในอนาคตอันใกล้ เป็นเช่นไร? ประเทศไทยจะเดินต่อไปได้อย่างไร? โดยไม่ให้อนาคตของชาติ “ดับวูบ” ไปพร้อมกับชะตากรรมของ “ผู้นำประเทศ”
21 สิงหาคม 2568 … ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 39 ปี ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของประเทศไทย ควรเป็นวันที่ เต็มไปด้วยรอยยิ้มและคำอวยพร ทั้งจากบรรดา…ญาติมิตร โดยเฉพาะ คุณพ่อและคุณแม่ของเธอ “ทักษิณ – พจมาน” รวมถึงคณะรัฐมนตรี
กลับกลายเป็นวันที่เธอต้องขึ้นศาล แม้จะเป็น ศาลการเมือง อย่าง…ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเข้ารับฟังการไต่สวนคดีสำคัญ เกี่ยวพันกับ คลิปเสียงการสนทนาของเธอ กับ นายฮุน เซน ผู้นำจิตวิญญาณของชาวกัมพูชา
ทีมข่าวการเมือง “ยุทธศาสตร์ออนไลน์” เคยนำเสนอบทความที่ชื่อ “สกัดมู – สยบ 21” (https://yutthasartonline.com/political/135823) ถึงปมเหตุสำคัญที่เชื่อว่า…ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำต้องเลือกให้เธอมาขึ้นศาลในวันเกิดครบรอบปีที่ 39
เสมือนเป็นการ “ใช้มูหักมู!!!” อะไรทำนองนั้น
กระนั้น น.ส.แพทองธาร ก็เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมครอบครัวและทีมทนายความ
ท่ามกลางกองทัพสื่อทุกแขนงที่เฝ้าติดตามเธอทุกฝีก้าว
ภาพที่คนไทยได้เห็นผ่านสื่อ นั่นคือ…ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม แม้จะเป็น ยิ้มที่ต่างไปจากยิ้มเดิมๆ ที่นักข่าวเคยเห็น ก็ตาม…
กระนั้น น.ส.แพทองธาร ก็ดูสงบและมีความมั่นใจในระดับหนึ่งทีเดียว
ไม่ว่าความสงบและมั่นใจนี้ จะช่วยให้ชะตากรรมทางการเมืองของเธอ ก้าวผ่านไปอย่างที่หมอดูประจำครอบครัว เคยทำนายทายทัก ว่า… “หากผ่านวันเกิดปีนี้ไปได้…ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง!!!” หรือไม่ก็ตาม?
ทว่าคดีการเมืองที่จะถูกผูกโยงเป็นคดีความรุนแรงอื่นๆ ตามมา ก็ทำให้หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า…
สิ่งนี้…อาจเปลี่ยนทิศทางของรัฐบาลและส่งผลต่ออนาคตของประเทศไทยทั้งประเทศ!!!
ก่อนหน้านี้…ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติรับคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 36 คน ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และ มีมติ 7 ต่อ 2 ให้ น.ส.แ พทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
การยื่นคำชี้แจงเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ทำให้ศาลกำหนดวันนัดไต่สวนและจะมีการอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคมที่จะถึงนี้
ท่าทีของ ฝ่ายการเมืองหลายฝ่าย สะท้อนตรงกันว่า…คดีนี้มีน้ำหนักมาก ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่สามารถมองข้ามไปได้
ขณะเดียวกัน กระแสข่าวลือก็แพร่สะพัดอย่างต่อเนื่อง ว่าด้วยความกดดันจากทุกด้าน อาจทำให้ น.ส.แพทองธาร เลือกจะชิง “ลาออก” จากตำแหน่งหลังจากวันเกิดของตนเอง (ก่อนถึงวันพิพากษา 29 สิงหาคม)
เพื่อหักล้างกระแสและสร้างจุดเปลี่ยนให้กับการเมืองไทย
แต่ข้อเท็จจริงเชิงกฎหมาย มันกลับไม่ได้เอื้อให้การลาออก…กลายเป็น “ทางออก” ที่แท้จริง!!??
เพราะแม้ เธอจะลาออกจากเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” กระนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังสามารถจะดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ เนื่องจากคดีถูกยื่นและรับไว้แล้ว
อีกทั้งยังมีการสอบสวน โดย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ยังคงดำเนินไป โดยไม่ขึ้นอยู่กับ “สถานะ” การเป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น การลาออก! จึงไม่ใช่เกราะป้องกันจากคดีความ หากแต่เป็นเพียงสัญลักษณ์ทางการเมือง เท่านั้น
อย่างไรก็ดี แม้ท่าทีจาก พรรคเพื่อไทย และ แกนนำรัฐบาล จะยืนยันเสียงแข็งว่า…น.ส.แพทองธาร ไม่มีแผนลาออก และ รัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป
ขณะที่ มีรายงานจากสื่อต่างประเทศ อย่าง Reuters ก็ย้ำชัดว่า นายกรัฐมนตรีของไทย จะไม่ลาออกหรือยุบสภา แม้เธอจะเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากทั้งฝ่ายค้านและพันธมิตรทางการเมือง ก็ตาม
สัญญาณนี้ สะท้อนความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะรักษาเสถียรภาพและลดแรงกระเพื่อมที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ
ในโลกออนไลน์ แฮชแท็ก #แพทองธาร #วันเกิดนายกฯ และ #ศาลรัฐธรรมนูญ … ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง
เสียงจากผู้สนับสนุนต่างส่งกำลังใจและเผยแพร่ ภาพแฟนคลับที่นำรูปหลวงปู่ทวดมามอบให้
ขณะที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้เธอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
ส่วนประชาชนจำนวนไม่น้อย ซึ่งไม่ได้ยืนข้างใดข้างหนึ่ง ก็แสดงความกังวลว่า…ไม่ว่าเธอจะออกหรือไม่ออก ประเทศไทยก็ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองต่อไปอยู่ดี
ดังนั้น วันเกิดในปีที่ 39 ของ น.ส.แพทองธาร จึงไม่ใช่เพียงวันสำคัญส่วนตัว แต่กลับเป็นสัญลักษณ์ของทางแยกการเมืองไทย
หากเธอเลือก…ลาออก นั่นอาจหมายถึงการตัดไฟแต่ต้นลม! แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งกระบวนการตรวจสอบที่ ป.ป.ช. ดำเนินการอยู่…ได้
เช่นกัน ถ้าเธอเลือกที่จะยืนหยัด…สู้ต่อไป ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 29 สิงหาคมจะเป็นตัวชี้ชะตาที่อาจพลิกอนาคตทางการเมืองได้อย่างสิ้นเชิง!!!
ไม่ว่าทางเลือกใด? จะเกิดขึ้นนับจากนี้…
คำตอบของ น.ส.แพทองธาร จะไม่เพียงกำหนดชะตาชีวิตทางการเมืองของตัวเธอเอง
แต่ยังหมายถึง…อนาคตของประเทศทั้งประเทศ ที่ยืนอยู่บนความเปราะบาง!!!
การเมืองไทยในเวลานี้ จึงไม่ได้อยู่ในสภาพที่เพียงแค่ถามว่า “นายกฯ ออกหรือไม่ออก” หากแต่ต้องหันกลับมาอมองให้ลึกถึงคำถามที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นคือ…
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร? ประเทศไทย..จะเดินต่อไปได้อย่างไร? โดยไม่ให้อนาคตของชาติ “ดับวูบ” ไปพร้อมกับ…ชะตากรรมของ “ผู้นำประเทศ”!!!.