‘พาณิชย์’ ปรับแผนตรวจ ‘นอมินี’ ปี’68 เจอเสี่ยงเพิ่มเป็น 4.6 หมื่นราย จ่อยึดทรัพย์ 100 รายที่พบผิดแล้ว

“แก๊งทุนต่างด้าว” ผวากล “นอมินี” หลังรัฐไทยเอาจริง! ผุดกฎหมายใหม่ ยึดทรัพย์คนไทยร่วมต่างชาติตามกฎหมายฟอกเงิน ด้าน “อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ปรับแผนใหม่ ขยับเพิ่มนิยาม “นิติบุคคล – นอมินี” จาก 3 เป็น 6 กลุ่ม ลากเอาผิดได้ง่ายขึ้น เผย! ผลสอบเชิงลึกพบผิดแล้ว 100 ราย จ่อสาวถึงขั้นยึดทรัพย์ ล่าสุด พบอีกกลุ่มธุรกิจเสี่ยง “ตัวแทนอำพราง” ทั่วไทย ยอดพุ่งกว่า 4.6 หมื่นราย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้ดำเนินการปรับแผนงานประจำปีนี้ สำหรับการตรวจสอบนิติบุคคล “นอมินี” ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ เนื่องจากกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจประเทศ โดยการเพิ่มธุรกิจเสี่ยงสูงของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็น “นอมินี” จัดตั้งธุรกิจ แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม จากเดิมมีเพียง 3 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว 2.ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ การถือครองอสังหาริมทรัพย์ และ 3.ธุรกิจบริการในจังหวัดใหญ่ๆ ซึ่งในปี 2567 มีธุรกิจกลุ่มเสี่ยง เพียง 26,000 ราย
ส่วน 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมายใหม่ ครอบคลุมทั่วประเทศ ได้แก่ 1) ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก 2) ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ 3) ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า 4) ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท 5) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และ6) ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป รวมเป้าตรวจสอบ
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นมีนิติบุคคลที่มีต่างชาติร่วมทุนตามสัดส่วนถือหุ้นตามกฎหมายกำหนด ตั้งแต่ 0.01-49.99% ทั้งหมด 46,918 ราย ซึ่งรวม บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในบริษัทรับเหมาก่อสร้าง อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มหลังเหตุแผ่นดินไหวด้วย โดยขณะนี้ ได้เริ่มตรวจสอบเชิงลึก และส่งข้อมูลที่ได้ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเอาผิดในกฎหมายของแต่ละหน่วยงานแล้ว รวมประมาณ 100 ราย และหลังจากนี้จะลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป โดยนอกจากแผนการตรวจสอบนอมินีประจำปีแล้ว ยังรวมถึงการตรวจสอบธุรกิจที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมฯ ด้วย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงาน ปปง. ได้ร่วมกันพิจารณายกร่างกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เสร็จแล้ว โดยสาระสำคัญ คือ การกำหนดเพิ่มเติมให้คนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว มีความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายการฟอกเงินด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 25 เมษายนนี้ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จากนั้น จึงนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
สำหรับการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดในลักษณะ “นอมินี” ที่หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันดำเนินการ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 – 31 มีนาคม 2568 พบว่ามีจำนวน 852 ราย รวมมูลค่าความเสียหายราว 15,188 ล้านบาท.