‘รมช.พาณิชย์’ เร่งขยายตลาดสินค้า GI – หนุน ‘ส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร’ ขายทั่วโลก สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน
รมช.พาณิชย์ “นภินทร ศรีสรรพางค์” ลงพื้นที่แหล่งผลิต “ส้มโอท่าข่อย” สินค้า GI ของดีเมืองพิจิตร ย้ำ! ตลาดส้มโอเติบโตสูง ตอบโจทย์สายรักษ์สุขภาพ สั่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าขยายช่องทางการตลาด ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพิ่มโอกาสทางการค้า พร้อมสนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ดันส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ เผย! ขึ้นทะเบียนสินค้า GI แล้ว 212 สินค้า สร้างรายได้เข้าประเทศปีละ 7.6 หมื่นล้านบาท
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลัง นำคณะลงพื้นที่แหล่งผลิตส้มโอ จังหวัดพิจิตร ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์ชุมชนผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้า GI และการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนมีการ ขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI ไทย และด้วย สินค้า GI มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่แหล่งผลิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งผลให้สินค้ามีอัตลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้สินค้า GI เป็นสินค้าสำคัญที่ขับเคลื่อนโยบาย Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาลด้วย ซึ่งปัจจุบัน มีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ทั่วประเทศแล้ว 212 สินค้า สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจของประเทศกว่า 76,000 ล้านบาทต่อปี สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการในชุมชน นำมาสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่จังหวัดพิจิตรครั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร พร้อมกล่าวชื่นชมสวนส้มโอลุงแล สวนส้มโอท่าข่อย ที่มีศักยภาพในพื้นที่ ปลูกส้มโอมากว่า 20 ปี นอกจากจะได้รับรองเรื่องคุณภาพผ่านการอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI ไทยแล้ว ยังมีโอกาสการเติบโตของตลาดส้มโอที่สูง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง โพแทสเซียม และสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ เป็นที่ต้องการของตลาดสุขภาพซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร ของดีเมืองพิจิตร พบว่า มีการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรที่มีรสหวานอมเปรี้ยว เนื้อสีชมพูอ่อนๆ ฉ่ำน้ำ มีเมล็ดน้อย หรือไม่มีเมล็ด ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำยม แม่น้ำน่านและแม่น้ำพิจิตรไหลผ่าน จึงทำให้ดินในพื้นที่ดังกล่าวอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกส้มโอ ปัจจุบันส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรทำรายได้ให้กับเกษตรกรในจังหวัดกว่า 36,000 ล้านบาท และมีผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 42,000 ตัน/ปี
ทั้งนี้ ตนยังได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าส่งเสริมการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการค้าส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรต่อไป ทั้งนี้ สำหรับเกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดใดสนใจนำสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์และเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ สามารถนำมาปรึกษาเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368.