2 ภาษีผนึกเชื่อมข้อมูลใบเสร็จฯ กศก. 123 ‘ช่วยตรวจสอบภาษีของรัฐ – ลดขั้นตอนของภาคเอกชน’
2 อธิบดี “ศุลกากร – สรรพากร” ลงนาม MOU เชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 เผย! ปูทางกรมสรรพากรนำข้อมูลเพื่อใช้ตรวจสอบภาษี โดยไม่เรียกใบเสร็จจากผู้ประกอบการ เพิ่มความสะดวกเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านกรมสรรพากร ย้ำ! เอกสารต้องมีข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 บนระบบงาน ไม่เช่นนั้นอาจถูกตรวจสอบความถูกต้อง คาดเปิดใช้ระบบงานราวตุลาคม 2567
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ผานมา นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ระหว่าง กรมศุลกากร กับ กรมสรรพากร พ.ศ. 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดเก็บภาษีอากร โดยมีผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมภาสกรวงศ์ ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล เรื่อง การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ที่กำหนดให้ทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ลดการใช้เงินสดและเช็ค โดยกรมศุลกากรได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีการรับชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม รายได้อื่น หรือเงินประกัน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เฉลี่ยร้อยละ 80 จากยอดรวมของการรับชำระเงินทุกประเภท และตามประกาศกรมศุลกากรที่ 69/2566 ลงวันที่ 11 เมษายน 2566 กำหนดให้ผู้ประกอบการที่ชำระค่าภาษีอากรฯ โดยวิธีตัดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกอบการ หรือ Direct Debit และการชำระค่าภาษีอากรฯ ผ่านช่องทางการให้บริการของธนาคารหรือตัวแทนรับชำระ หรือ Bill Payment สามารถพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 จากระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมศุลกากรได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเดินทางมาที่กรมศุลกากร ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีการพิมพ์ใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวนเฉลี่ย 3 ล้านฉบับต่อปี
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม สะดวก รวดเร็ว กรมศุลกากรจึงได้ร่วมมือกับกรมสรรพากรพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กรมสรรพากรนำข้อมูลไปใช้ในการตรวจสอบภาษี และไม่ต้องเรียกใบเสร็จรับเงินจากผู้ประกอบการอันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดเก็บภาษีอากรได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมศุลกากรที่ได้วางแนวทางไว้ ซึ่งกรมศุลกากรพร้อมส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2567
“กรมศุลกากรยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรเพื่อก้าวสู่องค์กรศุลกากรชั้นนำ ที่มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนของเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสังคมด้วยนวัตกรรมและบริการที่เป็นเลิศต่อไป” อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว
ด้าน อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ระหว่าง กรมสรรพากร และ กรมศุลกากร ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่เป็นประโยชน์สำหรับในการบริหารการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร ข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 เป็นข้อมูลที่จำเป็น และเป็นข้อมูลสนับสนุนสำหรับการปฏิบัติงานตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถนำใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ที่กรมศุลกากรออกให้จากระบบอิเล็กทรอนิกส์มา ถือเป็นใบกำกับภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ผู้ประกอบการที่จะต้องนำส่งเอกสารใบเสร็จรับเงิน กศก.123 เว้นแต่ ไม่ปรากฏข้อมูลใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 บนระบบงาน หรือมีเหตุที่ต้องพิสูจน์ความถูกต้องของใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 ทั้งนี้ กรมสรรพากรคาดว่าจะเปิดใช้ระบบงานประมาณเดือน ตุลาคม 2567
“ความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากร และกรมศุลกากรในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติอีกทั้ง ยังเป็นการอำนวยความสะดวก ด้านการบริการแก่ประชาชน พร้อมทั้งยังช่วยให้การบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และพัฒนากระบวนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ให้มีความสอดคล้องและมีความเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันตามพระราชบัญญัติการบริหารงาน และการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562” อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุป.