นายกฯชง 3 นโยบาย ‘ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์’ สานต่อ – พึงใจทั่วโลกรู้จักความเป็นไทย – หนุน 11 อุตฯซอฟต์พาวเวอร์

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ คกก.ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หลังทำงานจนต่างชาติรู้จัก “ความเป็นไทย” ไปทั่วโลก พร้อมมอบ 3 นโยบายเด่น! พ่วงเน้นใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ชู “1 ครอบครัว 1 soft power” ย้ำ! ขอให้ช่วยกันผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ด้าน รองโฆษกสำนักนายกฯ ระบุ! ที่ประชุมฯเห็นชอบหลักการ “อุตฯซอฟท์ พาวเวอร์” 11 สาขา ตั้งเป้าหนุนทั้งโครงการและวงเงินให้เสร็จภายในปี 2567

เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 22 เมษายน  2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล, นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ครั้งที่ 2/2567 โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมประชุมฯในครั้งนี้

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวมอบนโยบายต่อที่ประชุมฯ โดยย้ำว่า ขอให้ทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและคนในแต่ละสาขา จากต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ครอบคลุมถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้น ซึ่งต้องการฝึกฝนหรือเรียนรู้เพื่อสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต ผ่านนโยบายในการทำงาน 3 ข้อ ดังนี้

1. ขอให้ทำแผนการ “รับ Register” เพื่อคัด 1 ครอบครัว 1 soft power ให้เร็วที่สุด เพื่อเราจะได้แยกความรู้ความสามารถตามความชำนาญและสาขาอาชีพ และนำคนไปเข้าหลักสูตรฝึกอบรม ซึ่งควรจะมีทั้ง Online และ Onsite ตามความสามารถ รวมถึงต้องจัด Class และวิธีการคัดเลือกผู้เข้าเรียนให้ทั่วถึง และยุติธรรม

2. ขอให้เตรียม “เนื้อหา Content” ที่จะใช้ในการ Upskill /Reskill ให้ตรงกับความชำนาญ และเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ First Impression ในการเรียนรู้สำคัญมาก เราไม่อยากเห็นประชาชนสมัครเข้ามาแล้วพบว่าไม่ได้มีเนื้อหาอะไรที่จะสอน เราไม่อยากเห็นภาพคนเข้าโครงการ แต่เนื้อหาไม่น่าสนใจ เกิดเป็น Bad Experience และทำให้คน Drop off ไปได้ และที่สำคัญ วิธีการเรียนการสอน ต้องเข้าใจง่าย มีมาตรฐานที่ดี

และ 3. การจัด Event ต้องขอให้เป็นการ “ต่อยอด” จากที่ภาคอุตสาหกรรมทำอยู่แล้ว รัฐควรพิจารณาในการต่อยอด Event ที่ทำแล้วจะช่วยขยายผลได้มาก ต่อยอดจากภาคอุตสาหกรรมให้เข้าถึงคนได้มากขึ้น และต้องให้แนใจว่าการต่อยอดนั้นเป็นประโยชน์มากขึ้น มีความคุ้มค่าในการลงทุน ฉะนั้น ขอให้มีตัวชี้วัดชัดเจนว่า การมีรัฐลงทุน จะช่วยขยายผลได้อย่างไร

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ครั้งที่ 2/2567 รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพิ่มเติม และ รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯ ทุกคน ที่ได้ดำเนินโครงการซอฟต์พาวเวอร์ในด้านต่าง ๆ จนเกิดผลดีต่อประเทศไทย ทำให้ต่างชาติรู้จักความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบในหลักการการจัดประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอ และเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณการจัดประชุมฯ โดยมอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางฯ ต่อไป รวมทั้ง เห็นชอบในหลักการข้อเสนอโครงการของอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์เป้าหมายทั้ง 11 สาขา ปี 2567 พร้อมทั้งเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณโครงการของอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์เป้าหมายทั้ง 11 สาขา ปี 2567 โดยที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางฯ ต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password