กำไรสุทธิครึ่งปีแรก แม็คโครโต 20% บวกโลตัสแนวโน้มสดใส

กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ผลประกอบการครึ่งปีแรกสดใส สะท้อนการเติบโตแข็งแกร่ง จากทั้งแม็คโครโตต่อเนื่อง และโลตัสกลับมาโตทุกมิติ ด้วยกำลังซื้อฟื้นตัวผนวกจุดแข็งด้านอาหารสด ความสำเร็จจากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแม็คโคร เปิดเผยว่า ไตรมาสสองของปี 2565 กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มค้าส่งแม็คโครเติบโตได้จากธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมที่กลับมาฟื้นตัว

ประกอบกับการเติบโตของยอดขายจากทั้งสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแม็คโคร กัมพูชา ที่มีผลประกอบการเป็นบวกมาหลายไตรมาสรวมถึงธุรกิจฟูดเซอร์วิสที่ปรับตัวดีต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มค้าปลีกโลตัสกลับมาเติบโตจากการที่สามารถเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติการรีแบรนด์สาขา การพัฒนาสินค้าอาหารสดรวมทั้งการเปิดตัวแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายออนไลน์ ‘โลตัส สมาร์ท แอปพลิเคชั่น’

บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาสสอง 118,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.6 % และมีกำไรสุทธิ 1,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีรายได้รวมทั้งสิ้น 229,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,623 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

สำหรับยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตของธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ประกอบด้วย

· ยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำอาหารสด ที่มีจุดแข็งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไป ด้วยสินค้าที่หลากหลายในราคาที่คุ้มค่า ปี 2565 ‘โลตัส’ พัฒนาสินค้าอาหารสดต่อเนื่องส่งผลให้ยอดขายไตรมาส 2 เติบโตถึง 14%

· ยุทธศาสตร์ O2O ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าทุกกลุ่มการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค จะเห็นได้จากที่แพลตฟอร์ม แม็คโครคลิกโตต่อเนื่อง ช่วงที่ผ่านมา แม็คโครยังเปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘maknet’ B2B Marketplace ด้านโลตัส ได้สร้าง Online Grocery แพลตฟอร์ม หรือบริการสั่งซื้อของสดออนไลน์ ซึ่งการเติบโตของช่องทาง O2O เป็นสัญญาณบวก เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย ดังเห็นได้จากยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ของโลตัสประเทศไทย โตเพิ่มขึ้นถึง 141.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

· ยุทธศาสตร์ความยั่งยืน กับการส่งเสริม SME และเกษตรกรรายย่อย ด้วยแพลตฟอร์มแห่งโอกาสจากการสนับสนุนช่องทางการขายให้กับเกษตรกรรายย่อยและ SME ทำให้แม็คโครและโลตัสมีสินค้าอาหารสดที่มีความหลากหลาย คุณภาพดีจากผู้ผลิตกว่า 10,000 ราย สามารถกระจายสินค้าจากเกษตรกรไทยสู่ผู้บริโภคผ่านช่องทางสาขาที่มีเกือบ 3,000 แห่งทั่วประเทศ

“นอกจากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C แล้ว เราจะเดินหน้ายุทธศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้อย่างต่อเนื่องในการเติบโตมุ่งสู่การเป็นผู้นำค้าส่งค้าปลีกของภูมิภาค พร้อมกันนี้เราจะใช้ศักยภาพเข้าไปช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ให้ทั้ง SME และเกษตรกรรายย่อยเติบโตไปด้วยกัน” นายธานินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 จะกลับมาขยายตัวอยู่ที่ราว 11% คิดเป็นมูลค่า 3.45 ล้านล้านบาท จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค การเพิ่มขึ้นของรายได้ภาคเกษตรและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทำให้ภาพรวมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโต และเข้าสู่การฟื้นตัวเต็มรูปแบบ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password