12 ข่าวฮอต! เม้าท์มันส์สนั่นเมือง…(011068)

วันแรกของเดือนตุลาคม! วันที่…คนใหม่มาแทนที่คนเก่า หลายกรม…หลากกระทรวง และอีกหลายๆ หน่วยงาน ต่างก็มี “นายใหม่” มามอบนโยบายกันไปแล้ว ส่วนเรา…มาสรุปกันกับ 12 ข่าวร้อนประจำวันพุธที่ 1 ตุลาคม 2568 ครอบคลุมข่าวการเมืองและความมั่นคง, ข่าวเศรษฐกิจและธุรกิจ รวมถึงข่าวสังคมทั่วไป เริ่มกันที่ข่าวนี้ละกัน…
(1) ชัตดาวน์สหรัฐ! ไม่ถึงไทย – นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวระหว่างการประชุมพรรคภูมิใจไทย ถึงภาวะ “ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ” หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯต้องหยุดทำการชั่วคราวครั้งแรกในรอบ 6 ปี จากปมความขัดแย้งระหว่าง พรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน เรื่องงบประมาณและเงินช่วยเหลือสุขภาพ โดยย้ำว่า… เป็นเรื่องภายในของเขา และไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พร้อมกับยืนยันว่า ไทยได้เจรจาภาษีกับสหรัฐฯไว้แล้ว จึงมั่นใจไม่มีผลลบรุนแรง ทั้งนี้ ไทยจะเดินหน้าข้อตกลงระหว่างประเทศต่อไป ไม่หวั่นแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจโลก พร้อมเรียกร้อง ส.ส.และพรรคร่วมรัฐบาลให้มั่นใจ ทำงานตามนโยบายที่ให้ไว้ และย้ำว่า “ประเทศไทยต้องไม่ถูกล่มกลางคลื่นโลก”. (2) นัดแรกคุย สมช. ไร้สร้างรั้ว – นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล มีนัดหมาย ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งแรกของรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) โดยจะ มอบนโยบายด้านความมั่นคง แต่ข่าววงในระบุว่า…การประชุมรอบนี้ จะยังไม่มีการหารือในวาระ “สร้างรั้วชายแดน” โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชัดเจนแล้ว แต่จะเป็นการเสนอแนวนโยบายปฏิบัติของ รมว.กลาโหม เพื่อสร้างความคุ้นเคยเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเสริมสร้างการพร้อมรบในทุกสถานการณ์ ซึ่งการของบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นการจัดหาต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2568. (3) ปชช.ต้องรู้ก่อน? – สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ระบุชัด! หากรัฐบาลจะทำประชามติ ยกเลิก MOU ระหว่างไทย-กัมพูชา จะต้องสอบถามประชาชนก่อน เพื่อให้ได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ เบื้องต้น รองนายกฯบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เคยพูดถึงวิธีการในเบื้องต้นไปแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร โดยในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ต้องการให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดว่าเนื้อหาของ MOU เป็นอย่างไรและมีไว้เพื่ออะไร อยากให้ประชาชนตัดสินใจโดยมีข้อมูล ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร? เราก็เคารพ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศจึงอยากให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม. (4) ปรับสื่อสารเชิงรุก! – “โฆษกรัฐบาล” สิริพงศ์ อัครสกุลเกียรติ เผยว่า รัฐบาลจะใช้ท่าที “เชิงรุก” ในการสื่อสารกับประชาชนเรื่องปมชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันถึงแนวทางของรัฐบาล คือ “ไม่อ่อนข้อให้เขมร” และจะรักษาผลประโยชน์อธิปไตยของไทยอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการชายแดน (ศบ.ทก.) จะยังคงใช้ชุดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อสานต่อแนวทางที่วางไว้ พร้อมฝากถึงสื่อให้ร่วมสร้างความเข้าใจ ลดข่าวลวงเรื่องชายแดน.
(5) เข้าถึงน้ำดื่มสะอาด – กมลภพ วีระพละ เอ็มดี.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศร่วมมือกับ 4 หน่วยงาน “กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน – กรมอนามัย – กรมวิทยาศาสตร์บริการ – มูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน” มุ่งบูรณาการพัฒนาและจัดการคุณภาพน้ำอุปโภคและน้ำบริโภคให้ ร.ร.ในพื้นที่โครงการพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติทั่วประเทศ หวังยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียน ครู และประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ได้เข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน ถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะการดูแลบำรุงรักษาระบบ แก่บุคลากรในโรงเรียนและชุมชน เพื่อให้ดูแลบำรุงรักษาระบบและยั่งยืน. (6) คว้า 2 ปีซ้อน – แพททริก ปูเลีย และ ศรชัย สุเนต์ตา ตัวแทน ธนาคารไทยพาณิชย์ รับ รางวัลธนาคารยอดเยี่ยมเพื่อการลงทุน จาก เวที The Asset Triple A Awards เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็นธนาคารที่มีบทบาทโดดเด่น นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนผ่านหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง สกุลเงินบาท ประเภท Dual Currency ตอบโจทย์ความต้องการลงทุนต่างประเทศของนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง ตอกย้ำ! ผู้นำนวัตกรรมทางการเงินที่ตอบโจทย์ความมั่งคั่งทุกระดับ อีกทั้ง ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการ โดยเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกและแห่งเดียว ที่เปิดตัวหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ประเภท USDTHB Target Redemption. (7) ปักหมุด! ตลาดหรู…ภูเก็ต – ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ CEO ค่าย SC Asset เผยว่า บริษัทยังคงมุ่งเจาะตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย (Engine 1) ล่าสุด ได้จับมือกับ บจ.โบ๊ทพัฒนา ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาฯระดับลักชัวรีรายใหญ่ จ.ภูเก็ต เพื่อร่วมทุนในโครงการ “ซี เธียเตอร์ ราไวย์” วิลล่าหรู ระดับ “ซูเปอร์ลักชัวรี” ตั้งติดหาดราไวย์ โดยนับเป็นวิลล่าติดหาด ที่เห็นวิวทะเลจากทุกยูนิต ราคาเริ่มต้นแค่ 91 ล้านบาท แต่จะได้สังคมสุด Exclusive จำกัดแค่เพียง 8 ครอบครัวเท่านั้น โดยโครงการนี้ ว่ากันว่า…มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 700 ล้าน ที่จะมาพร้อมกับงความร่วมมือระยะยาวต่อเนื่อง พันธมิตรคู่นี้…ตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกัน รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้าน ภายใน 3 ปีนับจากนี้.(8) มติผู้ถือหุ้นสั่งเพิ่มทุน – ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น มีมติให้ บมจ. อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด (XYZ) ทำการเพิ่มทุน โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 170 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) 5 ราย ราคาหุ้นละ 1.10 บาท รวมมูลค่า 187 ล้านบาท ( 5.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เรียกชำระภายในเดือนตุลาคม 2568 โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ ประมาณ 90% หรือมูลค่า 168 ล้านบาท จะนำไปใช้ซื้อ Bitcoin ภายใต้กลยุทธ์ Bitcoin Treasury โดยมี แผนทยอยลงทุนจนแล้วเสร็จภายในปี 2570 เพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนไทยที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด ตั้งเป้าถือครองรวม 3,333 BTC ภายใน 3 ปี และอีก 10% ของเงินเพิ่มทุน มูลค่า 19 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนโครงการใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา Bitcoin, Web3 และธุรกิจโทเคน.
(9.) เปิดถนน 9 ต.ค. – กิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่า รฟท. พร้อมด้วย วรัญญา ลีลาบูรณพงศ์ ผอ.เขตดุสิต และ ผศ.นพ.อนุแสง จิตสมเกษม ผอ. รพ.วชิรพยาบาล ร่วมแถลงความคืบหน้าสถานการณ์หลุมยุบหน้าโรงพยาบาล ยืนยันว่า…การเข้าไปอุดช่องว่างบริเวณแนวท่อประปาที่เพิ่งพบวานนี้ (30 ต.ค.) รวมถึงการตรวจสอบโดยรอบนั้น จะช่วยความมั่นใจต่อทุกฝ่าย ทั้งนี้ ได้ใช้คอนกรีตอัดไปประมาณ 100 คิว และปูนก็เซตตัวแล้ว รวมถึงวันนี้ยังได้เททรายถมลงไปอีกเกือบ 1,300 คิว คาดว่าจะเททรายได้ครบ 2000 คิว เมื่อรวมความสูงของทราย 2 เมตร กับความสูงของคอนกรีดที่เทไปก่อนหน้านี้ 5 เมตร รวมเป็น 7 เมตร เชื่อว่ากรุงเทพมหานครจะกลับมาเปิดการจราจรได้ภายในวันที่ 9 ต.ค.นี้ อย่างแน่นอน. (10) สาธารณสุขยั่งยืน – นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุม สป.สธ.ครั้งที่ 7/2568 ครั้งแรกของปีงบประมาณนี้ และหลังดำรงตำแหน่งปลัด สธ. ดัน “5 นโยบาย” ตามกรอบระยะสั้น 4 เดือน และระยะยาว 4 ปี คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการสุขภาพเชิงพื้นที่, 2.สร้างสุขภาพดีทุกช่วงวัย, 3.เพิ่มขีดความสามารถ นวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข, 4.เพิ่มมูลค่าเชิงเศรษฐกิจสุขภาพ และ 5.บุคลากรมีขวัญ กําลังใจ และคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดี. (11) ฝนถล่ม 16 จ. – กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้ว่า…อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า บางแห่งของไทยจะมีฝนตกหนัก จากอิทธิพล พายุบัวลอย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและอีสาน รวม 16 จังหวัด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เช่น พื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และภาคเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย. และ (12) ถูกที่ 1 : 162 ลบ. – แข่งเรือแข่งพายพอได้แข่ง? งานนี้…มี คนบุญหนัก ถูกรางวัลที่ 1 สลากดิจิทัล บนแอปฯเป๋าตัง ของแบงก์กรุงไทย งวดวันที่ 1 ต.ค. 2568 กับเลขสลากรางวัลที่ 1 : 876978 รวมทั้งสิ้น รวม 27 ใบ มูลค่า 162 ล้านบาท มากสุดถูกคนเดียว 10 คู่ รับเงินไปเนาะๆ 60 ล้านบาท ที่เหลือก็ตามนี้….ถูก 1 ใบ จำนวน 5 คน, ถูก 2 ใบ จำนวน 2 คน และถูก 4 ใบ จำนวน 2 คน ขณะที่ สลากตัวเลขสามหลัก คือ 978 รางวัลละ 3,326 บาท เลขรางวัลสามสลับหลัก: 789 798 879 897 987 รางวัลละ 616 บาท เลขรางวัลสองตรง 77 รางวัลละ 791 บาท เลขรางวัลพิเศษ 978000002041 รางวัลละ 275,922.00 บาท ตรวจผลการถูกรางวัลสลากดิจิทัล และสามารถขึ้นรางวัลได้ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง รายละเอียดเพิ่มเติม https://krungthai.com/link/paotang-digital-lottery-facebook. ของแถมทิ้งท้าย…วานนี้ แจ้งไว้ จะนำรายละเอียด โครงการ “ทรัพย์มหาชน” เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต ตอบโจทย์คนรายได้น้อย ของ BAM มาเล่าสู่กันฟัง วันนี้…ก็เอามาฝากกันแล้ว!!! คลิกอ่านเลยที่ https://yutthasartonline.com/strategies/140857.