‘รมช.พาณิชย์’ มุ่งแก้ 2 ปม ‘วิกฤตค้าชายแดน – ภาษีทรัปม์’ เผย! ยังมีเรื่องเคลียร์ ‘กฎถิ่นกำเนิดสินค้า – RVC’

“ฉันทวิชญ์” เดินหน้า! ใช้ “4 มาตรการสำคัญ” หวังพาผู้ประกอบการไทยฝ่า “วิกฤตการค้า-ชายแดน” พร้อมรักษาความสามารถการแข่งขันการค้า หลังสหรัฐฯ ประกาศ tariff 19% มุ่งหาตลาดใหม่ พ่วงรักษาตลาดเดิม แนะผู้ประกอบเร่งปรับตัวรับสถานการณ์ใหม่
วันนี้ (4 สิงหาคม 2568) ณ ห้องประชุมมโนปกรณ์นิติธาดา กระทรวงพาณิชย์, นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการ “ส่งเสริมกาแฟไทยอย่างยั่งยืนด้วย FTA” พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงผลใน การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่า การที่สหรัฐฯเห็นชอบอัตราภาษีนำเข้า 19% ถือเป็นข่าวดีและเป็น “สเต็ปแรก” ที่ช่วยให้ไทยยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันทางการค้าไว้ได้ อย่างไรก็ตาม การเจรจายังไม่สิ้นสุด โดยไทยยังต้องผลักดันในหลายประเด็นสำคัญ เช่น กฎถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) และมาตรการ Regional Value Content (RVC) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์สูงสุดและสามารถปรับตัวได้โดยไม่เกิดผลกระทบที่รุนแรง
“กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น ทั้งการปรับปรุงกฎระเบียบให้สอดคล้องกับมาตรการของสหรัฐฯ และการสนับสนุนผู้ประกอบการในการปรับตัว นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าหาตลาดใหม่ (diversification) เพื่อสร้างโอกาสการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยไม่ละทิ้งตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ” นายฉันทวิชญ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ยังได้หารืออย่างใกล้ชิดกับผู้ประกอบการทั้งภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและหามาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม เช่น การเตรียมความพร้อมต่อกฎ RVC ใหม่ และการใช้โครงการต่างๆ เพื่อบุกตลาดใหม่ โดยกาแฟไทยเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนถึงศักยภาพของผู้ประกอบการที่สามารถต่อยอดสู่ตลาดโลกได้
ในประเด็นรายละเอียดของข้อตกลงนั้น นายฉันทวิชญ์ ระบุว่า ขณะนี้ คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการแล้ว และคาดว่าสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จะประกาศความตกลงอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ หลังจากนั้น ไทยจะต้องดำเนินกระบวนการทางกฎหมายภายในประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการค้าระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวถึง มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ออก 4 มาตรการหลัก ได้แก่…
1.ควบคุมราคาสินค้าจำเป็น “ห้ามขาด ห้ามแพง” ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาและติดตามรายงานสถานการณ์รายวัน
2.ช่วยผู้ประกอบการระบายสินค้าคงคลัง โดยประสานกับห้างร้านและจุดกระจายสินค้า
3.แก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์ โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกการขนส่ง
4.สนับสนุนการหาตลาดใหม่ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้า
“สิ่งสำคัญคือการปรับตัวและการทำงานเชิงรุกของทีมไทยแลนด์ เพื่อให้การเจรจานี้สร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อผู้ประกอบการไทยและทุกภาคส่วนในระยะยาว” นายฉันทวิชญ์ กล่าว.