‘พาณิชย์’ นำทัพเอกชน-นักวิชาการ บุกซาอุฯ เปิดประตูส่งออกมันสำปะหลัง รองรับผลผลิตฤดูกาลใหม่

กรมการค้าต่างประเทศ รับลูก “นายกฯแพทองธาร” และรมว.พาณิชย์ เร่งส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เผย! 17- 22 พ.ค.นี้ ยกคณะเอกชน – นักวิชาการ บุกซาอุดิอาระเบีย พร้อมจับมือภาครัฐและภาคเอกชน ขยายตลาดผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย สู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ มุ่งเจรจา 2 เมืองใหญ่ “กรุงริยาด และเมืองเจดดาห์” คาดสร้างความต้องการล่วงหน้าก่อนเข้าสู่ฤดูการผลิต 2568/69 นี้

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในฐานะ หน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการตลาดต่างประเทศ กรมฯจึงได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบนโยบายจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ในคราวประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ให้เร่งส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยและหาตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยดำเนินการผลักดันและขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของให้ให้มีมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในฤดูการผลิตถัดไป ซึ่งจะช่วยยกระดับราคามันสำปะหลังในประเทศได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กรมฯ ได้จัดคณะเดินทางร่วมกับผู้ส่งออกมันสำปะหลังที่มีศักยภาพ พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่มีองค์ความรู้ในการนำมันสำปะหลังไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ และคณะสื่อมวลชน ร่วมเจรจาเปิดตลาดอาหารสัตว์ ณ กรุงริยาด และเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยถือเป็นตลาดใหม่ที่มีโอกาสของสินค้ามันสำปะหลังไทย เนื่องจากมีอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ปศุสัตว์และประมง รวมทั้ง รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้มีศักยภาพในการรองรับธัญพืชต่างๆ จำนวนมากเพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง
“การจัดคณะเดินทางระหว่างวันที่ 17-22 พฤษภาคม 2568 นี้ ถือเป็นการเปิดตลาดตะวันออกกลาง เพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้มากยิ่งขึ้น” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวและย้ำเพิ่มเติมว่า…

คณะเดินทางจะหารือกับผู้นำเข้ารายใหญ่สำคัญใน 2 เมือง ได้แก่ 1. กรุงริยาด ที่จะได้เจรจาหารือถึงโอกาสในการทำการค้าระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทยกับ ผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ที่มีศักยภาพของซาอุดีอาระเบีย เช่น บริษัท Arabian Agricultural Services Company (ARASCO) และ Al Sanabel Group, Al Zahabiya Industrial ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์ และเนื้อสัตว์รายสำคัญของประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่มีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และ 2. เมืองเจดดาห์ ซึ่งเป็น เมืองท่าที่สำคัญของซาอุดีอาระเบีย โดยจะเป็นการประชุมเจรจา ขยายตลาดกับผู้นำเข้าและผลิตอาหารสัตว์รายสำคัญของซาอุดีอาระเบีย เช่น บริษัท Fekieh Feed บริษัท United Feed และ Salem Al Saiary Est. ซึ่งผู้ประกอบการข้างต้น ถือเป็นผู้ค้ารายใหม่ที่ไม่เคยใช้มันสำปะหลังมาก่อน ดังนั้น จึงถือเป็นการเปิดตลาดซาอุดีอาระเบียเพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทย และเป็นการกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาตลาดส่งออกเพียงตลาดเดียว
“นอกจากนี้ กรมฯจะใช้โอกาสนี้ในการเชิญผู้นำเข้าที่มีศักยภาพจากซาอุดีอาระเบีย เข้าร่วมงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลกปี 2568 (World Tapioca Conference 2025: WTC 2025) ที่จะจัดในเดือนกรกฎาคม เพื่อแสดงศักยภาพของไทยในฐานะผู้ผลิตมันสำปะหลังรายใหญ่ และผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลก รวมทั้งเป็น เวทีให้ผู้ซื้อผู้ขายทั่วโลกได้มีการเจรจาซื้อขายและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โดยภายในงานจะมีการทำความตกลงซื้อขายสินค้ามันสำปะหลังเพื่อหาตลาดล่วงหน้าและผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” นางอารดา กล่าวปิดท้าย.