‘พาณิชย์’ยกทัพรับฟังปัญหา/ข้อเสนอแนะจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ

“พิชัย” นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมถกสารพัดปัญหากับหการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ ย้ำ! ภาครัฐร่วมมือเอกชนเต็มที่ มุ่งเปิดทางเร่งเจรจาเอฟทีเอกับประเทศต่างๆ เต็มที ลั่น! ไม่ปล่อยให้สินค้าด้อยคุณภาพตีตลาดไทย ชี้! เตรียมแผนเดินหน้าเร่งเจรจาทางการจีนเกี่ยวกับสารตกค้างสินค้าเกษตรไทย

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นำ คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึง แนวทางผลักดันการค้าการลงทุนของไทยในปี 2568 โดย รมว.พาณิชย์ ได้นำเสนอถึงการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ที่จะช่วยสร้างโอกาสการค้าไทย ทั้งการเดินหน้าเจรจา FTA ไทย-อียู การดูแลสินค้าเกษตร และปราบสินค้าด้อยคุณภาพ พร้อมทั้งรับฟังความเห็นและข้อเสนอในการประชุมวันนี้ ไปบูรณาการการทำงานต่อไป
ทั้งนี้ นโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการขับเคลื่อนร่วมกับภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสการค้าไทย ประกอบด้วย การเร่งเจรจา FTA และเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ทำสำเร็จไปแล้ว คือ FTA ไทย-เอฟต้า และ ไทย-ภูฏาน ที่กำลังเร่งเจรจาต่อมาคือ FTA ไทย-อียู ซึ่งจากการหารือร่วมกับนายมารอส เซฟโควิช (H.E. Mr. Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าฯ ก็ตั้งเป้าร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ส่วน FTA ฉบับอื่นๆ ก็จะเร่งเจรจา ทั้ง ไทย-เกาหลีใต้, ไทย-ยูเออี, อาเซียน-แคนาดา เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทั้งหมดนี้ในการขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต คือ การชูไทยเป็นคลังอาหารของโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งประเทศตะวันออกกลางให้ความสนใจอย่างยิ่งการดูแลและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง รวมทั้ง การดำเนินนโยบายทลายทุนผูกขาดข้าว เปิดเสรีข้าว ดังนั้น การสร้าง Thailand Brand ถือว่าเป็นการันตีคุณภาพสินค้าของผู้ประกอบการรายย่อยของไทย และได้มีการปรับโฉม Thai SELECT เทียบชั้นมิชลินสตาร์ การส่งเสริมสินค้า Thailand Next Level เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าไทย, การแก้ปัญหาสินค้า/ธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยได้ ตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อทำให้ความเข้มข้นของการปราบปรามดียิ่งขึ้น ไปจนถึง การเตรียมการรับมือต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ

ด้าน นายสนั่น กล่าวว่า การประชุมวันนี้นับเป็นเวทีประวัติศาสตร์ที่ รมว.พาณิชย์ ได้มาเข้าเยี่ยมเยือนสร้างกำลังใจ สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ได้ชี้แจงถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหอการค้าไทยอย่างมาก ที่เราเห็นเป็นปัญหาร่วมกันคือ เรื่องหนี้ และเอสเอ็มอีที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ดีใจที่รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องรถกระบะที่มีการยึด แล้วช่วยคุยให้มีการปล่อยกู้ เพื่อให้เขามีรถใช้ทำมาหากิน วันนี้ กำลังซื้อตก ถ้าเราแก้ได้ อย่างอื่นจะดีขึ้น
ทั้งนี้ แนวทางการส่งออกของไทย ถือว่า รมว.พาณิชย์ ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะข้อตกลงเอฟทีเอ ไทย-อียู ที่ไทยอาจจะได้ฉลองกันปลายปีนี้ หอการค้าไทยได้ขอร้องให้เจรจาเรื่องน้ำเชื่อมที่ไม่สามารถส่งออกจีนได้ รวมถึงทุเรียนเช่นเดียวกัน โดย รมว.พาณิชย์ รับปากจะเจรจากับทางการจีนอย่างเต็มที่ อีกทั้ง ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ยังได้รับฟังความเห็นและข้อเสนอต่างๆ จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย การแก้ปัญหาส่งออกน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าไปจีน, การปนเปื้อนสาร BY2 ต่อการส่งออกทุเรียนไทย, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเร่งผลักดัน FTA เพื่อขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ทั้งแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยูเรเซีย และทบทวน FTA ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด, การเข้าร่วมงาน China International Supply Chain Expo (CISCE) รวมทั้ง การรับฟังข้อเสนอถึงโอกาสและอุปสรรคการค้าในภูมิภาคต่างๆ เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เวียดนาม เป็นต้น.
