เผย! ‘สาโท’ เครื่องดื่มผลิตจากข้าวหอมมะลิไทย สุดฮอต! ในตออสเตรีย จ่อบูมต่อทั่วทวีปยุโรป

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย! “สาโท” กำลังบูมในออสเตรีย หลังบาร์ไทยสุดฮิปกลางกรุงเวียนนา พัฒนาจนได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคและสื่อมวลชนต่อแถวเข้าชิม ด้าน “ทูตพาณิชย์” ประจำเวียนนา-วอร์ซอ เตรียมผนึกกำลังโปรโมท ดัน Soft Power เครื่องดื่มไทยให้โด่งดังในสหภาพยุโรป โดยมี ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร เป็นเป้าหมายต่อไป

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯมอบนโยบายให้ ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ล่าสุด ได้รับรายงาน น.ส.อรอนุช ผดุงวิถี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ถึงการขับเคลื่อน Soft Power ของไทย คือ สาโท ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด เป็นวัตถุดิบหลักและนำมาหมักบ่มกับน้ำแร่ธรรมชาติคุณภาพสูงแห่งเทือกเขาแอลป์ประเทศออสเตรีย ออกมาเป็นสาโทชั้นยอดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ ได้รายงานว่า สาโทดังกล่าว ถูกพัฒนาขึ้นโดยสิบสองบาร์ (Sip Song Bar) บาร์ไทยสุดฮิปกลางกรุงเวียนนา และใช้ชื่อว่า “สาโท Sip Song” since 2024 เสิร์ฟลูกค้าเป็นแห่งแรกในประเทศออสเตรีย โดยได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้บริโภคและนักวิจารณ์ผู้มีอิทธิพลในวงการอาหารออสเตรีย ตลอดจนสื่อมวลชนทั้งในออสเตรียและสื่ออื่นในยุโรป ต่างให้ความสนใจขอเข้าสัมภาษณ์พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมและวัฒนธรรมการกินดื่มของไทยในครั้งนี้

ขณะที่ นางสุพัณณดา พลับทอง หรือ เปียโน อดีตศิลปินนักร้องชื่อดังวงสามพี่น้อง The Sis ซึ่งได้ผันตัวมาเป็น เจ้าของร้านอาหารไทย Mamamon Thai Eatery และ Sip Song Bar ในกรุงเวียนนา ได้ให้ข้อมูลว่า “คุณสามารถรับประทานข้าวได้ คุณก็ดื่มข้าวได้เช่นกัน” ซึ่งข้าวอย่างหลังหมายถึง สาโท เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าวโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ส่วนการพัฒนาสาโท มาจากความต้องการยกระดับอาหารไทยให้เป็นสากลและมีความเป็นพรีเมียม จึงได้เสาะหาเครื่องดื่มที่เข้ากันได้ดีกับอาหารไทยที่มีรสจัดจ้านเผ็ดร้อน โดยจากการค้นคว้า ทดลอง และสั่งสมประสบการณ์ จนได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลญี่ปุ่นไปเรียนรู้วิธีการทำสาเกที่ญี่ปุ่น และประสบการณ์ที่ได้ ทำให้มองเห็นว่า เครื่องดื่มที่ตามหาอยู่ ไม่ใช่อะไรที่ไหน แต่คือ สาโทนั่นเอง เหมือนกับไวน์คู่กับอาหารตะวันตก หรือสาเกคู่อาหารญี่ปุ่น

ขณะที่ น.ส.อรอนุช (ทูตพาณิชย์) กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเกของญี่ปุ่น ถูกผลิตโดยใช้ข้าวเหนียวจากประเทศไทยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วโลก สาโทของไทยกลับกลายเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกจำกัด และยังไม่ได้รับโอกาสในการพัฒนาเพื่อนำมาสร้างประโยชน์ในทางเศรษฐกิจอย่างที่ควรจะเป็น แต่ด้วยความซาบซึ้งในคุณค่าและอัตลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทยจากทุ่งกุลาร้องไห้ คุณเปียโนจึงพยายามพัฒนาสาโทที่ทำจากข้าวเจ้าชนิดนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในโลก เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและยังเป็นสินค้าเกษตรชนิดแรกของไทยและอาเซียนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของสหภาพยุโรป ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเครื่องรับประกันคุณภาพและแหล่งกำเนิดของสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมอาชีพชาวนา คุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่และการอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมอันทรงคุณค่าให้ยังคงได้รับการสืบทอดต่อไปอีกด้วย

“ที่ผ่านมา สำนักงานฯ ได้ทดลองนำสาโทเข้าเสิร์ฟในงานเลี้ยงรับรอง Vienna Fashion Week 2024 เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่น่าสนใจ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะ สาโท เป็น Soft Power ด้านเครื่องดื่มที่สำคัญของไทย โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ นางเมทินี ศิริสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ร่วมกันส่งเสริมผู้ประกอบการหาช่องทางการเจาะตลาดสาโท Sip Song ในโปแลนด์ผ่านร้านอาหารไทยแนวสตรีทฟู้ดที่มีความสนใจ รวมทั้งจัดเจรจาจับคู่เจรจาธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ศักยภาพในเมืองหลักอย่างกรุงวอร์ซอ และเมืองคาคุฟ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นที่น่าพอใจ โดยคาดว่าจะมีฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร เป็นประเทศเป้าหมายต่อไป น.ส.อรอนุช กล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password