ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ‘2 กาแฟไทย’ ชี้! รสชาติไม่แพ้นอก! กับตำนานปลูกกว่า 100 ปี สายพันธุ์โรบัสต้า
กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขึ้นทะเบียนสินค้า “กาแฟระนอง – กาแฟดอยมูเซอตาก” GI น้องใหม่ ระบุ! มีรสชาติไม่แพ้กาแฟต่างชาติ แถมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกมายาวนานกว่า 100 ปี เตรียมยกระดับกาแฟไทยสู่ตลาดสากล พร้อมชวนคอกาแฟลิ้มลอง กาแฟ GI ไทยในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 – 15 ธ.ค. 2567
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังคงเดินหน้าประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชมท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาในแต่ละพื้นที่ ล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียน GI “กาแฟระนอง” และ “กาแฟดอยมูเซอตาก” จึงทำให้ปัจจุบันมีกาแฟไทยที่ขึ้นทะเบียน GI แล้ว 10 รายการ ได้แก่ (1) กาแฟดอยตุง (2) กาแฟดอยช้าง (3) กาแฟเขาทะลุ (4) กาแฟดงมะไฟ (5) กาแฟเทพเสด็จ (6) กาแฟวังน้ำเขียว (7) กาแฟเมืองกระบี่ (8) กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร (9) กาแฟระนอง และ (10) กาแฟดอยมูเซอตาก สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 1,300 ล้านบาท
“กาแฟระนอง” เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกและแปรรูปในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 200-800 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้า แร่ธาตุในดินของพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ทำให้ต้นกาแฟได้รับธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับภูมิอากาศของพื้นที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งจากฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงและพื้นที่มีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กาแฟระนองมีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งจังหวัดระนองยังเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้าแหล่งใหญ่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ นับเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระนองที่สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 375 ล้านบาท
ส่วน “กาแฟดอยมูเซอตาก” คือ กาแฟพันธุ์อาราบิกาและกาแฟโรบัสต้า มีรสชาติกาแฟที่มีกลิ่นหอมผลไม้และถั่ว รสสัมผัสแบบเบาบาง มีแหล่งเพาะปลูกและแปรรูปในอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของดอยมูเซอซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ระดับ 800 เมตรขึ้นไป และมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ ส่งผลให้กาแฟดอยมูเซอตากมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 257 ล้านบาท
“ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมมือกับสมาคมกาแฟพิเศษไทย และ The Cloud ส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับกาแฟไทย จึงได้ร่วมออกบูทในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจและสัมผัสรสชาติกาแฟ GI ไทยในงานดังกล่าว” นายนภินทร กล่าว.