กนง.ยอมถอย! หลังคุยรัฐบาลถึงภาวะเศรษฐกิจมาหลายรอบ ที่สุด! มติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เสียง เห็นชอบหั่นดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว 0.25% เหนือ 2.25% โดยให้มีผลทันที ยืนยันไร้แรงกดดันจากฝ่ายการเมือง แต่เพราะมีจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลาง สอดรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปัจจุบัน

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยภายหลัง การประชุม กนง. ว่า กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องจากที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือถึงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจร่วมกับรัฐบาลมาโดยตลอด เพื่อรับฟังข้อมูล ความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ต่อปี เป็นความต้องการของ ธปท. ที่พิจารณาจากการปรับสมดุลเสถียรภาพทางการเงินและหนี้ครัวเรือน และเพื่อให้ภาระหนี้สอดคล้องกับรายได้ของประชาชน ซึ่งรอบนี้มองเห็นโอกาสในการปรับสมดุลได้ในการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยไม่มีแรงกดดันทางด้านการเมืองแต่อย่างใด  

สำหรับเป้าหมายเงินเฟ้อ เลขานุการ กนง. ระบุว่ายังคงต้องหารือกัน โดยเน้นการดูแลเงินเฟ้อในระยะยาว เนื่องจากเงินเฟ้อของไทยมีความผันผวนสูง ที่มาจากทั้งอุปทานและปัจจัยภายนอก ทั้งนี้ กรอบเงินเฟ้อที่ดีจะต้องยืดหยุ่น สอดคล้องกับความผันผวน และไม่อยู่ในระดับสูงจนเกินไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ ส่วนปัญหาเงินฝืด ถึงตอนนี้ ตนยังไม่เห็นสัญญาณดังกล่าวแต่อย่างใด 

“การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ น่าจะช่วยลดภาระหนี้ และช่วยเพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้ของลูกหนี้ให้ดีขึ้น ส่วนปัญหาการเร่งก่อหนี้ใหม่ ถึงตอนนี้ หากมองจากพัฒนาการที่ผ่านมา คิดไม่น่ามีความเสี่ยงมากนัก กนง. จึงชั่งน้ำหนักภาระหนี้ที่ลดลง และกระบวนการการปรับลดหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ที่น่าจะเกิดได้ในช่วงนี้ โดยหากการประเมินเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยประเมินไว้ เชื่อว่าการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ ก็น่าจะส่งผ่านผลดีไปยังประชาชน อย่างไรก็ตาม ธปท.เอง คงต้องติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่อไป”  นายสักกะภพ กล่าว.