คึกคัก! ‘หมอเปรม’ ขอเป็นทางเลือกชิงเก้าอี้ปธ.วุฒิฯ ‘บิ๊กเกรียง’ หนุน ‘มงคล’ เหมาะสม
“หมอเปรม” พร้อมรับการเสนอชื่อลงชิงตำแหน่ง ประธานวุฒิสภา แม้จะเป็นรองคู่แข่งจาก สายสีน้ำเงิน ขณะ “บิ๊กเกรียง” ชูะงหนุน “มงคล สุระสัจจะ” ชี้เหมาะสมทั้ง “คุณวุฒิ-วัยวุฒิ”
ความเคลื่อนไหวที่อาคารรัฐสภา ก่อนการเลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา วันนี้ (23 ก.ค.) ว่า มีสว. ได้ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมกันตั้งแต่ช่วงเช้า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีบรรดาสื่อมวลชนเฝ้ารอทำข่าวกันอย่างคับคั่ง
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ หนึ่งใน สว.ที่มีกระแสข่าวว่าจะถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ โดยยอมรับที่จะถูกเสนอชื่อให้เป็นประธานวุฒิสภาเพื่อให้เป็นตัวเลือกในอีกแนวทางที่ไม่มีเงาของพรรคการเมืองใดทาบอยู่ข้างหลัง “การเสนอตัวในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ดี และลบข้อครหาของ สว. ชุดนี้ ว่าเป็น สว. ตามใบสั่ง และเชื่อมั่นว่าแนวทางของตนเอง และเพื่อนสมาชิก ได้รับความสนใจก็จะเสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภา ส่วนผลจะเป็นอย่างไร ตนเองก็เคารพทุกท่าน แต่ขอให้ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่าจะนำพา สว. ไปสู่ทิศทางเช่นใด และขอให้สบายใจ หรืออย่ากังวลใจในการลงมติ” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
ต่อข้อถามว่าการลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาในครั้งนี้ จะถูกมองว่าเป็นเหมือนไม้ประดับหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การถูกบอกไม้ประดับ ถือเป็นคำพูดที่ดูถูกประชาธิปไตย การจะบอกว่าตนเองมีจำนวนเสียง 140 เสียง แล้วมาดูถูกอีกฝั่งว่าเป็นพลังจิ้บจ๊อยนั้น ตนเห็นว่ามดแดงยังเคยล้มช้างมาแล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมาปรามาสกัน การลงสมัคร หรือ การเสนอชื่อ มีความหมายต่อระบบประชาธิปไตย แพ้หรือชนะ เป็นเรื่องที่ สว. จะตัดสินใจบนพื้นฐานของการกู้ภาพลักษณ์ และเกียรติศักดิ์ของสถาบันแห่งนี้
นพ.เปรมศักดิ์ เชื่อว่าจะมีสว. ที่จะสนับสนุนตนเอง มีประมาณกว่า 10 คน และเพียงพอต่อการเสนอชื่อ และขอโอกาสจากสว. หากได้แค่คะแนนเดียว ตนเองพร้อมน้อมรับ อย่างไรก็ดีตนไม่มองว่าการเสนอชื่อของตนนั้นเพื่อแสดงให้เห็นเสียงของสว.ที่ตนมีอยู่ในกลุ่ม
ด้าน พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา ว่า เมื่อตนได้รับเลือกแล้วก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่สมาชิกทั้งหลายได้ให้โอกาสตนในการรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงประชาชนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็เป็นความสวยงามของวิถีชีวิตในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามถึงภารกิจแรกหลังจากได้รับตำแหน่งประมุขของวุฒิสภานั้น พล.อ.เกรียงไกร บอกว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ต้องรอก่อนว่าบทบาทของใครจะได้รับมอบหมายเรื่องอะไร ซึ่งจริงๆหน้าที่และบทบาทก็กำหนดอยู่ในระเบียบข้อบังคับอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นใครที่ได้รับมอบหมายความไว้วางใจก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายมงคล สุระสัจจะ วางตัวให้เป็นประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร มองว่า นายมงคล มีความเหมาะสมเพราะพร้อมด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ผ่านชีวิตมามากมายตั้งแต่ปฐมวัยและในช่วงที่ทำงานใหม่ๆ ส่วนที่มีข้อวิจารณ์ว่า สว.สายสีน้ำเงินจะคุมเบ็ดเสร็จของสภาฯ นั้น ตนมองว่าในวุฒิสภามีความหลากหลาย จะมองเป็นแค่กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ไม่ได้ เพราะทำหน้าที่สว.ต้องเดินไปด้วยกันแม้จะมีความเห็นต่าง.