“ชายผู้ชื่นชอบและเสพสุขการทะเลาะวิวาท ไม่เพียงจะก่ออริศัตรูมากมาย หากยังบั่นทอนมวลมิตรให้เหลือน้อยลงในทุกวินาที”  นายสัปดาป…ผู้ชื่นชอบการสุมไฟใส่ฟืน! รายงานตัว ณ Top 20 News ยุทธศาสตร์ออนไลน์ในห้วงกลางสัปดาห์ของเดือนกรกฎาคม 2567

นาทีนี้…ใครที่ไม่รู้ตัวถึงคุณค่าแท้จริงของตัวเองในสายตาของผู้อื่น คงยากจะยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน? จับยามสามตา…ขอทำนายทายทักต่อไปว่า 2 พ่อลูกตระกูล “อยู่บำรุง” คงจะ “ไร้ราคา” ในสายของ “นายน้อย” อุ๊งอิ๊ง – แพรทองธาร ชินวัตร จากนี้ไป…รอวันนับถอยหลังได้เลย โอกาสจะอยู่ใน สมการการเมืองยุคใหม่ ที่เน้นคนรุ่นใหม่ ปลุกขึ้นมาทำงานแข่งขันกับ คนจาก พรรคก้าวไกล คงเหลือน้อยลงทุกที! ปรับโครงสร้างครั้งใหม่ ของ พรรคเพื่อไทย รอบหน้า…คงไม่พ้นโดนล้างบางยกครัว…★★…ไม่ไล่ออก? แต่จะ “แช่แข็ง” ใน พรรคเพื่อไทย ไปอย่างนี้ ทนได้…ทนไป! แต่หากทนไม่ได้ สารวัตรเหลิม – เฉลิม อยู่บำรุง ก็ยกทีม…ลาออกไปเอง? ลูกชายไปแล้ว แต่หลายชายยังมีตำแหน่งใน “รัฐบาลเศรษฐา” ประสา “นายใหญ่” ใครที่หมดฤทธิ์หมดเดช สิ้นเขี้ยวเล็บ ไร้ซึ่งพลังในทางการเมือง ย่อมไร้คุณค่าในสายตา “คนนำ” ไปโดยปริยาย หรือ “คนพ่อ” จะเอาข้อเสนอตามที่ ธนพร ศรียากูล นักวิชาการผู้เกาะติดสถานการณ์การเมือง…แนะนำ? ยึด “เสนาะ เทียนทอง โมเดล” สวมตอเวทีชุมนุมประท้วงสักเวที แล้วขึ้นปราศรัย “ลากไส้” นายใหญ่ ออกมาสัก 4-5 ขด แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง 555…★★…

…★★…หลายคนชักไม่แน่ใจ? คดี 40 สว.ยื่นถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ผู้ที่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ที่สุด! จะยังอยู่ในเกณฑ์ “รอด” อีกหรือเปล่า? ขนาด “คนสื่อรุ่นใหญ่” อย่าง…วีระ ธีรภัทร เอง ก็ชักไม่แน่ใจ? มีสัญญาณหลายอย่างที่สะท้อนบอกถึงความไม่แน่ใจและแน่นอนกับเก้าอี้ตัวนั้น ประสา นายสัปดาป…อดคิดไม่ได้ ที่เห็น “เศรษฐา ทวีสิน” และ 2 รมช.คลัง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ – เผ่าภูมิ โรจนสกุล” ออกมาประกาศปาวๆ เรื่องความคืบหน้า ดิจิทัล วอลเล็ต “แจกเงินหมื่นบาท” ตั้งแต่ “วงเล็ก” คณะอนุกรรมการฯ ยัน “วงใหญ่” ที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นประธาน และเพิ่งประชุมกันไปไม่นาน ดีเดย์ 1 สิงหาคม 2567 จะเปิดให้คนไทยได้ลงทะเบียน…★★…เอากันตามจริง นาทีนี้ หากโครงการที่ว่า…เกิดได้จริง! “รัฐบาลเศรษฐา” เตรียมการรับมือกับ คลื่นมหาชน 45 ล้านคน ได้แล้วหรือ? แล้วกับ 2 ข้อห่วงใยหลัก ที่ ผู้ว่าแบงก์ชาติ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ฝากหนังสือเป็นทางการ ส่งตรงถึงห้องประชุมที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” นั่งหัวโต๊ะ และเป็น “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ออกมายืนยันว่า…มันไม่ใช่ “จดหมายน้อย” เหมือนที่สื่อค่ายใหญ่ “ปล่อยไก่” อีกทั้งก็ไม่มีเรื่อง…วินัยการเงินการคลัง แต่เป็นเรื่องข้อห่วงใยเกี่ยวกับ ระบบ/แอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ที่จะนำมารองรับการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ…การลงทะเบียน การเชื่อมโยงกับระบบรับ-ชำระเงินร่วมกับสถาบันการเงิน ซึ่งอย่างหลังนี้…รัฐบาล โดย กระทรวงการคลัง จะต้องส่ง Processมาให้ แบงก์ชาติ ได้ตรวจสอบก่อนถึงวันใช้จ่ายเงินได้จริง ไม่ต่ำกว่า 15 วัน เสียก่อน…★★…

…★★…อีกเรื่อง คือ การหาแนวทางป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งในส่วนของร้านค้าและประชาชน ที่วันนี้…ยังมีคดีฟ้องร้องกันนัวเนียรวมกันกว่า 2,000 เคสท์ และคนในกลุ่มนี้…จะถูกตัดสิทธิ์ในทันที ทั้งหมดคือข้อห่วงใยจาก ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ที่ ภาครัฐ เองดูเหมือนจะไม่กังวลใจ แต่นั่นเพราะ…คนใน “รัฐบาลเศรษฐา” จำเป็นจะต้องพูดไปในทิศทางเดียวกับ “เศรษฐา ทวีสิน” แต่กับ เบื้องลึกบนข้อเท็จจริง แล้ว มันก็ไม่แน่ว่า…โครงการดิจิทัล วอลเลต “แจกเงินหมื่นบาท” จะเกิดขึ้นได้! มี 2 ประเด็นที่ นายสันดาป ขอตั้งข้อสังเกตตามนี้ หนึ่ง…อ้างอิง “วีระ ธีระภัทธ” (ข้างต้น) ที่ไม่มั่นใจว่า… “เศรษฐา ทวีสิน” จะผ่านด่านของ ศาลรัฐธรรมนูญ ไปได้ หากต้องสิ้นสุดความเป็น “นายกรัฐมนตรี” นั่นก็หมายความว่า…พรรคเพื่อไทย โดยการสั่งการของ “นายใหญ่” อาจพับ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ให้มลายหายไปพร้อมกับ “รัฐบาลเศรษฐา”…★★…อีกหนึ่ง…หาก “เศรษฐา ทวีสิน” ผ่านพงหนามของ ศาลรัฐธรรมนูญ ไปได้ ก็ให้ลองย้อนกลับไปกับดูสิ่งที่ “เงาะ – วรชัย เหมะ” ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของ “รองนายกฯอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ที่มีประเด็น “วิวาทะ” กับ เลขาธิการนายกฯ “หมอมิ้ง – นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” ตรงนี้…มันสะท้อนว่า เอกภาพทางความคิดระหว่าง…ทีมนายใหญ่ กับ ทีมนายกฯเศรษฐา ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน ลึกๆ ว่ากันว่า…เพราะ การบริหารนโยบายเศรษฐกิจที่ล้มเหลว หวังพึ่งแค่เรื่อง…ดิจิทัล วอลเล็ต ทุกอย่างจึงไม่เป็นเช่นที่หวัง โดยเฉพาะ “คะแนนนิยม” ของพรรคเพื่อไทย ที่นับวันมีแต่จะ…สาละวันเตี้ยลง! ในทุกๆ วัน…★★…

…★★…สรุปให้กระชับ คือ “เศรษฐา ทวีสิน” ไร้กึ๋นในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ จนทำให้เศรษฐกิจ-ธุรกิจ พาเหรดดำดิ่ง แม้กระทั่ง ดัชนีตลาดหุ้นของไทย เอง ก็มีสภาพที่ไม่ต่างกันนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลทำให้…อีกฟากของคนร่วมพรรคฯ ต้องการจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนไป พร้อมๆ กับ…ล้มโครงการดิจิทัล วอลเล็ต นั่นเอง สำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” แล้ว…เป็น นายกรัฐมนตรี 1 ปี หรืออยู่ครบวาระ 4 ปี ก็ได้ชื่อว่าเป็น “นายกรัฐมนตรี” ของประเทศไทย เช่นกันอยู่แล้ว อย่างอื่น…มันเกินเป้าหมายความเป็น “ซีอีโอรับจ้าง” ตามพันธะสัญญาตั้งแต่แรกเริ่ม ทราบแล้วเปลี่ยน! …★★…นอกจากเรื่องที่จะต้องส่ง…ระบบ/แอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” รองรับการทำธุรกรรมต่างๆ ใน โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ให้ แบงก์ชาติ ตรวจสอบความเสถียรแล้ว ก่อนหน้านี้ ยังจะมีเรื่อง…ดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ซึ่ง “รัฐบาลเศรษฐา” อยากเห็นการ “ปรับ”…เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงในปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง…ล้วนขึ้นกับความเห็นชอบของ แบงก์ชาติ ภายใต้การนำของ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” จะเห็นด้วยแค่ไหน? แล้วยังจะมีเรื่องใหม่…ภายใต้ข้อเสนอของ กระทรวงการคลัง ต้องการจะ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้บ้าน จากเดิม…คนทั่วไป 70 ปี เป็น 80 ปี และ กลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ จากเดิม 75 ปี เป็น 85 ปี แม้แนวคิดนี้ จะช่วยลดอัตราการเพิ่มของ “หนี้เสีย” หรือ NPLที่…รองนายกฯและรมว.คลัง “พิชัย ชุณหวชิร” รู้สึกกังวลใจ ถึงขนาด…นำหารือกลางวงประชุม ครม.เศรษฐกิจ เมื่อวันก่อน…★★…

…★★…หากแนวคิดทำได้… ไม่เพียงจะช่วยลดสัดส่วนหนี้สินของประเทศ ที่มี หนี้สินภาคครัวเรือน เป็นตัวนำ กระทั่ง ดันยอดหนี้รวมพุ่งสูงถึงระดับ 90% ของจีดีพี แต่สิ่งนี้ ยังจะช่วยกด…ไม่ให้ หนี้สินก้อนใหม่ ทั้งจาก…หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ และหนี้บัตรเครดิต ที่จ่อรอเป็น NPL ในเร็วๆ นี้ อีกราว 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นมาให้รัฐบาล “ปวดขมับ” กันอีก ทั้งหมดทั่งมวล หาก แบงก์ชาติ ภายใต้การนำของ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” จะเห็นด้วยแค่ไหน? โอกาสที่ แบงก์พาณิชย์ จะขยายเวลาการ “ยืดหนี้” เป็น 75 ปี และ 85 ปี ก็ปิดฉาก! จบกันไป คราวนี้แหละ…ต่อให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่วินิจฉัยให้…สิ้นสภาพความเป็น นายกรัฐมนตรี หรือ “นายใหญ่” ไม่บีบให้ลาออก ก็คงเป็น ประชาชนและเจ้าของธุรกิจ ที่จะออกหน้ามาขับไล่พ้น ทำเนียบรัฐบาล กันไป…โดยไม่ต้องกังขา? …★★…

…★★…ก่อนจาก  นายสัปดาป อยากให้ฟังคำบ่นของ เพื่อนสื่ออาวุโส กับพฤติกรรม “มองคน (สื่อ) ไม่เท่ากัน” ของ กลุ่มคนที่ทำงานด้านพีอาร์ (ประชาสัมพันธ์) ซึ่งเกี่ยวพันไม่เฉพาะแค่งาน เผยแพร่ข่าวสารข้อมูลขององค์กรตัวเอง หากยังสัมพันธ์กับ การบริหารภาพลักษณ์องค์กร หากตกเป็น “ภาพลบ” ไม่ว่าจะเป็น…ตัวองค์กร ตัวผลิตภัณฑ์ แม้กระทั่ง ตัวผู้บริหาร แล้ว ย่อมกระทบถึง ภาพลักษณ์องค์กร อย่างยากจะหลีกเลี่ยง! แค่อยากจะบอกว่า…ไม่ว่าจะ ค่ายเล็กหรือใหญ่ แต่ คนสื่อทุกคน ต่างมองกันเองว่าเป็น คนสื่อที่มีค่าเท่ากัน แปลก! ทั้งที่ คนสื่อ…มีอิทธิพลต่อการสร้าง และ/หรือ ทำลายภาพลักษณ์องค์กรและผู้บริหารองค์กรของหน่วยงานต่างๆ ได้มากกว่า Steak Holder กลุ่มอื่นๆ แต่ พีอาร์และผู้บริหารองค์กรบางแห่ง…กลับมอง คนสื่อเป็นคนไม่เท่ากัน! ความคิดในลักษณะนี้…เสี่ยงและเป็นอันตรายต่อการบริหารจัดการในสภาวะ Crisis Management ในวันข้างหน้านะ…จะบอกให้!!!. 

นายสัปดาป