แกนนำ40สว.แจงทำเพื่อปชช.ปัดมีใบสั่งโค่น‘เศรษฐา’ ยันยื่นถอดถอนตามก.ม.
สว.ดิเรกฤทธิ์ ปัดใบสั่งเดินเกมโค่น “เศรษฐา” แจง 40 สว.เข้าชื่อถอดถอนนายกฯ-รมต.ถุงขนม ยึดกฎหมาย ทำเพื่อประชาชน ชี้ที่ไม่เผยชื่อผู้ลงนามเสนอศาลรธน.ทั้งหมด เพราะเป็นผู้ใหญ่ไม่อยากออกสื่อกลัวได้รับผลกระทบ
วันที่ 19 พ.ค.2567 นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 1 ใน 40 สว. ที่ร่วมลงชื่อเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ปฏิเสธการเข้าชื่อเพื่อยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมระบุมีผู้นำเชื่อไปแอบอ้างว่า กรณีดังกล่าวไม่มีผลใดๆ ต่อการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีการลงชื่อครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด คือ ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกที่มี หรือ 25คน ซึ่งการลงลายมือชื่อดังกล่าวมี สว. เข้าชื่อ จำนวน 40 คน ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อสว.ทั้งหมดที่ร่วมลงนามนั้น เป็นเอกสิทธิของแต่ละบุคคลที่จะเปิดเผยหรือไม่เปิดเผยก็ได้ อีกครั้งบางคนไม่อยากให้เปิดเผย เพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบ หรือทำให้เกิดการได้หรือเสียเปรียบต่างๆ
“สว.หลายคนเป็นผู้ใหญ่ไม่อยากออกสื่อ หรือไม่จำเป็นต้องแสดงตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตีตราลับและใช้สิทธิยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ทั้งนี้รายชื่อของสว.นั้น ถูกเปิดเผยต่อศาลแล้ว หากมีคำพิพากษาหรือคำวินิจฉัยจะเปิดเผยในรายละเอียดอยู่แต่ ในระหว่างการดำเนินการไม่อยากให้เปิดเผย ทั้งนี้ผมในฐานะผู้ร่วมลงชื่อ ยอมรับว่าไม่ได้เห็นรายชื่อทั้งหมด” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว และยืนยันด้วยว่าการเข้าชื่อของสว. ไม่มีการใช้เครดิตของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ เพราะ สว.แต่ละคนมีหน้าที่และมีสิทธิเท่ากัน และเป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนที่หลายฝ่ายถามหาเหตุผลว่าทำไมต้องทำในช่วงที่สว.ปัจจุบันหมดวาระแล้ว นั้นข้อเท็จจริงคือสว.ปัจจุบันยังมีเงินเดือนและค่าตอบแทน ยังทำหน้าที่อยู่ ซึ่งสว.ปัจจุบันจะพ้นจากตำแหน่งเมือมีสว.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องของการทำในระหว่างหมดวาระ
“ผมยืนยันว่าไม่มีใบสั่งหรือรับงานมาจากไหน แต่ยอมรับว่าสว.มีความเห็นหลากหลายในแต่ละกลุ่ม ซึ่งแต่ละคนล้วนมีเหตุผลและการพิจารณาเนื้อหา ส่วนผมนั้นไม่ใช่คนเกเร หรือเห็นแก่ประโยชน์ใด และที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของผมนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว.