‘บุ้ง ทะลุวัง’ เสียชีวิต ‘ทวี’ รายงานนายกฯแล้ว พบ ทำพินัยกรรมยกสมบัติ ให้ ‘หยก-พี่สาว’

ด่วน “บุ้ง กลุ่มทะลุวัง” เสียชีวิตแล้ว หลังหัวใจหยุดเต้น ส่งร่างชันสูตรพลิกศพ “ทวี สอดส่อง” รับเป็นเรื่องจริง รายงาน นายกฯ แล้ว รอผลชันสูตรก่อนแถลง ขจัดความคลางแคลงใจ เจ้าตัว ทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ “หยก-พี่สาว”

วันที่ 14 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์แจ้งว่า เช้านี้ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ผู้ต้องขังคดีทางการเมือง หัวใจหยุดเต้น และทีมแพทย์กำลังปั๊มหัวใจช่วยเหลือ โดย เวลา 11.30 น. หลังจากทีมแพทย์พยายามช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษายัง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ล่าสุดมีรายงานว่า บุ้ง กลุ่มทะลุวัง ได้เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ รพ.ได้เข็นร่างจากห้องฉุกเฉิน มาชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เดินตามมาด้วย 2 นาย

ด้านเจ้าหน้าที่นิติเวชยืนยันว่า มีรายชื่อ น.ส.เนติพร มาที่ห้องนิติเวชเพื่อชันสูตรจริง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ สำหรับ บุ้ง ทะลุวัง ถูกขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.67 หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงโทษจำคุก 1 เดือน กรณีละเมิดอำนาจศาล จากนั้น บุ้งประกาศอดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Hunger Strike) ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2567 เวลา 18.00 น.

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “ดาวแปดแฉก” โพสต์ข้อความระบุว่า “ด่วน!! “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิตแล้วที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เวลา 11.22 น. แพทย์รอชันสูตรที่นิติเวช”

สำหรับ “บุ้ง” นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวังวัย 28 ปี ถูกศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันในคดี ม.112 กรณีทำโพลเรื่องขบวนเสด็จ และถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 67 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 110 วันแล้ว ระหว่างถูกคุมขัง บุ้งได้อดอาหารเพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และยุติการคุมขังผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง

ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง แล้ว แต่เบื้องต้นเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของกฎหมาย จะต้องมีการชันสูตรพลิกศพก่อน โดยการทำงานร่วมกันของทางกรมราชทัณฑ์ และ แพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อไม่ให้เกิดความคลางแคลงใจ ทั้งนี้ ได้รายงานเรื่องนี้ให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัน อายุ 29 ปี แกนนำกลุ่มทะลุวัง ซึ่งถูกคุมขังตามหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ทำพินัยกรรมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 2 ก.พ. 67 แสดงเจตนาในการจัดการทรัพย์สินของตน ภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว โดยให้ทรัพย์สินที่เป็นเงินสดของตนที่มีเก็บรักษาไว้ และที่มีอยู่ในบัญชีเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งทรัพย์สินคือ นาฬิกาข้อมือ ต่างหู และสัตว์เลี้ยงคือแมวชื่อโซ 1 ตัว ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ น.ส.หยก (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ผู้ต้องหาคดี 112 ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว

ส่วนทรัพย์สินอื่นนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น อันรวมถึงที่ดิน สิทธิเรียกร้อง และสิทธิตามมรดกใดที่ตนพึงมีอยู่ก่อนที่จะถึงแก่ความตาย ขอยกให้แก่พี่สาวของตนแต่เพียงผู้เดียว และภายหลังจากที่ตนถึงแก่ความตายแล้ว ขอมอบให้ทนายความเป็นผู้จัดการมรดกของตนตามพินัยกรรมนี้ และให้มีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ

หากปรากฏว่า ณ วันที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น มีพินัยกรรมใดๆ ที่ปรากฏว่าได้ทําก่อนหน้า ให้ถือว่าพินัยกรรมที่ได้ทําก่อนหน้านั้นถูกยกเลิกทุกฉบับ ยืนยันว่าข้อความตามพินัยกรรมฉบับนี้เป็นไปตามเจตนาของตนทุกประการ ในขณะที่ทําพินัยกรรมฉบับนี้ ตนเข้าใจข้อความแห่งพินัยกรรมนี้เป็นอย่างดีและเห็นว่าตรงตามเจตนาของตน จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password