“สธ.อ้าย” เตือนแรง! รัฐบาลเร่งแก้ กม.กลาโหม จะเร่งทหารออกมายึดอำนาจเร็วขึ้น ด้าน ประธานสภาฯ “วันนอร์” ชี้! กม.เดิมเก่าแล้ว ใช้ตั้งแต่ “บิ๊กบัง” ยึดอำนาจปี 2549 ส่วนเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ บอก “จบแล้ว!” ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

กลายเป็นเรื่องร้อนของสังคมไทย หลังจากก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสภากลาโหม รับทราบและเห็นชอบ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม(ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร(ฉบับที่…) พ.ศ. … ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พักราชการทันที เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ข้าราชการทหารผู้ใด ที่ใช้กำลังทหารเพื่อยึดหรือควบคุม อำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาลหรือเพื่อก่อการกบฏ

หนึ่งในผู้ที่ส่งสัญญาณเตือนสติสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล คือ พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) อดีตประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ที่ได้ออกมาชี้ว่า สิ่งนี้ อาจเป็นตัวเร่งที่ทำให้ทหารทำปฏิวัติได้เร็วขึ้น การกล่าวหา ต้องมีการสอบสวนสืบสวนให้ชัดเจน ไม่งั้นก็เป็นเผด็จการ ขนาดเผด็จการทางทหารเขายังไม่กล้าทำเลย หากเผด็จการพลเรือนกล้าทำ ก็เรียบร้อย ก็ไปเร็วละ ไปเร็วกว่าที่เขาคิด

ทั้งนี้ หากรัฐบาลเพื่อไทยจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปแล้ว ตนคิดว่า เขา (รัฐบาล) จะถูกปฏิวัติเร็วกว่าที่เขาคิดไว้ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ ส่วนการที่ ผบ.เหล่าทัพ รับทราบข้อเสนอดังกล่าว ตนไม่ทราบความคิดของ ผบ.เหล่าทัพ แต่ว่าที่มันเกิดขึ้น ที่เขาคิดกัน มันไม่ถูกต้องมันเป็นเรื่องเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย มันจะเกิดการกลั่นแกล้งกันง่ายขึ้น ถ้าเขาเห็นนายทหารคนไหนมีทีท่าว่า จะขึ้นมามีอำนาจก็แกล้งเอาลงเสีย แล้วมันจะอยู่กันได้อย่างไร มันจะทำให้เกิดการกลั่นแกล้งกันง่ายขึ้น

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตน ยังไม่เห็นรายละเอียด ทั้งของเดิมและของใหม่ จึงพูดไม่ได้ แต่คิดว่าการปรับปรุง พ.ร.บ.กลาโหม เป็นเรื่องที่ดี เพราะ พ.ร.บ.กลาโหมฉบับที่ใช้ปัจจุบัน ออกตั้งแต่สมัย พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ทำการปฏิวัติรัฐประหาร

ส่วนกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ นั้น ตนเคยยืนยันไปแล้วว่าไม่มีการเปลี่ยน ส่วนตัวเชื่อว่ามันจบแล้ว ไม่ว่าจะมีการยื่นข้อเสนอในการปรับคณะมนตรีหรือไม่ เพราะการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ตนจะไม่เข้าไปยุ่ง ส่วนประธานและรองประธานสภาฯ เป็นเรื่องของสภาฯ ไม่เกี่ยวโยงกับการที่รัฐบาลจะปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด.