เพื่อไทย ลั่น! “นิรโทษกรรม” ไม่เอาปมที่ขัดแย้ง ชทพ. ย้ำต้องไม่แตะ ม.112
“ภูมิธรรม” ย้ำ “นิรโทษกรรม” ไม่เอาปมที่ยังเห็นแย้งกันอยู่ “วราวุธ” ระบุยังไม่เห็นร่างนิรโทษกรรม “ฉบับพท.”ย้ำจุดยืน “ชทพ.” ไม่แตะ ม.112 “ชลน่าน” ชี้ นิรโทษ ถ้าไม่เคลียร์ประเด็นขัดแย้งเดินหน้าไม่ได้ ต้องลดข้อจำกัด
วันที่ 4 ธ.ค.66 เมื่อเวลา 08.00น. ที่โรงแรมณัฐพล แกรนด์ หนองบัวลำภู นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเสนอร่างกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประกบร่างของพรรคก้าวไกล (กก.) ว่า เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมขณะนี้ เป็นฉันทามติของหลายส่วนแล้วว่าอยากเห็นการนิรโทษกรรมและการแก้ปัญหา แต่ที่ยังติดค้างอยู่คือ ประเด็นมาตรา 112 ซึ่งหลายพรรคการเมืองยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ในสังคมก็ยังไม่มีข้อยุติ ส่วนประเด็นอื่นๆไม่มีใครขัดข้อง แต่พอมีเรื่องมาตรา 112 ยังเป็นข้อขัดแย้งที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ฉะนั้นแนวคิดของเราจึงต้องหาข้อยุติให้ได้ก่อน ส่วนจะเสนอร่างประกบกันอย่างไรก็ต้องดูอีกที
เมื่อถามย้ำว่า ประเด็นมาตรา 112 พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า พรรคเพื่อไทย บอกชัดเจนแล้วว่าเรื่องไหนเป็นความขัดแย้งในสังคมต้องเคลียกันให้ได้ข้อยุติ ไม่ใช่จะเอาหรือไม่เอา ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นข้อสรุปที่มีความชัดเจน ว่าทุกคนเห็นด้วยและเข้าใจก็สนับสนุนอยู่แล้ว เพราะเราไม่อยากเห็นการสร้างความ ขัดแย้งขึ้นมาใหม่แทนความขัดแย้งเดิมซึ่งไม่เป็นประโยชน์
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ยังไม่เห็นร่างของพรรคเพื่อไทย แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา เรายังยืนในจุดยืนเดิมว่าการที่จะนิรโทษกรรมใดนั้น สิ่งที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 หรือ เป็นความผิดร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับความเสียหาย บุคคลภายนอก รวมไปถึงคดีอาญานั้นเราไม่สนับสนุน ส่วนรายละเอียดแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไรขอไปดูรายละเอียดก่อน เมื่อถามว่ามีบางพรรคไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษที่จะครอบคลุมไปถึงคดีทุจริตระหว่างที่มีความขัดแย้งทางการเมือง นายวรายวุธ กล่าวว่า การทุจริตไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น อาจคนละประเด็นกัน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ในฐานะสส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ประกบร่วมกับของพรรคก้าวไกล ว่า ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายกฎหมาย และผู้บริหารว่าเห็นควรอย่างไร จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเสนอเป็นร่างของพรรค ซึ่งก็ต้องไปพิจารณาในรายละเอียด เนื่องจากเนื้อหาสาระของแต่ละร่าง อาจแตกต่างกัน ก็เป็นกลไกของสภาว่าจะใช้ร่างใดเป็นหลัก
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นพ.ชลน่าน ระบุว่า เท่าที่ตนทราบยังไม่น่ามีการพูดคุยกัน น่าจะเป็นแนวคิดของเลขาธิการพรรคที่อาจจะมีการนำเสนอ และต่อข้อถามว่า ส่วนตัวคิดว่าการนิรโทษกรรมจะสามารถเดินต่อไปได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะไปได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่จะต้องดำเนินการ ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งก็ไปได้ หากเกิดประโยชน์โดยรวม แต่หากเป็นความเห็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง การนิรโทษกรรมก็จะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก็ต้องลดข้อจำกัดลง
โดยก่อนหน้านี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (กก.) ระบุว่าขณะนี้อยู่ในช่วง การเดินสายพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ เพื่อหาเสียงสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมฉบับพรรคก้าวไกล ซึ่งจะ พยายามพูดคุยกับหลายฝ่ายให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน เพราะอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ หากได้เดินสายพูดคุยกับอีกหลายฝ่ายเพิ่มเติม รวมถึงข้อกังวลอื่นๆ อย่างครบถ้วน เราจะเปิดเผยถึงความคืบหน้ากันอีกครั้ง
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกล ไม่สามารถดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ได้สำเร็จ ทางพรรคจะมีแนวทางอย่างไรต่อ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรายังคงคาดหวังว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคซีกรัฐบาล ซึ่งสุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะมีพรรคซีกรัฐบาลทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็ยังสามารถไปต่อได้ เพราะเป็นร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นกฎหมายที่ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตนคิดว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นต่างกัน ก็สามารถลงมติที่แตกต่างกันได้ แต่หากพรรคฝ่ายรัฐบาลมีความเห็นที่แตกต่างในรายละเอียด เราก็อยากเห็นพรรคการเมืองเหล่านั้นเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับตัวเองประกบ ก็จะสามารถนำเนื้อหาเหล่านี้มาถกเถียงกันผ่านกระบวนการในรัฐสภาได้ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันได้
เมื่อถามว่า ทางฝ่ายรัฐบาลโยนให้พรรค ก.ก. พูดคุยกับวิปรัฐบาลเพื่อที่จะนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เสนอเข้าที่ประชุมสภาฯ ในสมัยการประชุมหน้า ทางพรรคได้มีการพูดคุยกับวิปรัฐบาลบ้างหรือยัง นายพริษฐ์กล่าวว่า ทางวิปแต่ละฝ่ายก็คงมีการประสานกันอยู่แล้ว แต่ก่อนจะไปถึงการบรรจุวาระในช่วงเวลาใด เบื้องต้นคณะทำงานของเรา ได้พยายามพูดคุยกับตัวแทนทุกพรรคการเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจในตัวกฎหมาย
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าพรรคก้าวไกล กำลังพยายามเคลมผลงาน ด้วยการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเช่นนั้น “ผมคิดว่าไม่ว่าใครเสนอก็ตาม สมมติว่าในที่สุดแล้ว ทางครม. เสนอกฎหมายที่มีเนื้อหาสาระเป้าหมายเดียวกับของพรรคก้าวไกลเลย แล้วในที่สุด เป็นร่างของ ครม.ที่ผ่าน แต่ร่างของก้าวไกลไม่ผ่าน เราก็แฮปปี้ เราก็ยินดี สาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครเสนอ สาระสำคัญคือ สิ่งที่เราผลักดันได้สำเร็จตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่” นายพริษฐ์ กล่าว.