กก.เตรียมร่าง MOU ร่วมรบ. พท. “อุ๊งอิ๊ง” โยน “พิธา” ตอบ ดึง ภท. โดยไม่พึ่งเสียง ส.ว.
“พิธา” ต่อสายตรง “อุ๊งอิ๊ง” ทาบร่วมรัฐบาล เตรียมร่าง MOU พิจารณาร่วมกัน “หมอชลน่าน” ชี้ เป็นหน้าที่พรรคแกนนนำตั้งรบ.ต้องหาเสียงมาเติมให้ครบ 376 จี้ ส.ว.เคารพฉันทามติ ปชช. “อุ๊งอิ๊ง” โยน “พิธา” ตัดสินใจ ดึง ภท.ร่วมรบ.โดยไม่พึ่งเสียง ส.ว.
วันที่ 15 พ.ค.2566 เวลา 14.00 น. พรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.)และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี , นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท. ร่วมกันแถลงข่าว ถึงท่าทีการจับมือร่วมรัฐบาลกับ พรรคก้าวไกล (กก.) โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค กก.ได้โทรศัพท์สายตรงมาหาเมื่อช่วงเช้า ใช้เวลาประมาณ 3-4 นาทีเบื้องต้นได้แสดงความยินดีต่อกัน ส่วนรายละเอียด หรือ ร่าง เอ็มโอยู การจับมือตั้งรัฐบาลนั้น นายพิธา จะเป็นคนกำหนดรายละเอียดเงื่อนไขต่างมาพิจารณาร่วมกัน
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ในส่วนของพท.เองนั้น มีความเห็นด้วยและเห็นต่าง ในเรื่องของการแก้ไข มาตรา 112 ที่เป็นนโนยายหลักของก้าวไกล คือ 1. เพื่อไทย ไม่เห็นด้วยให้ยกเลิก แต่ให้มีการพิจารณาแก้ในสภาฯ 2.การจับกุมกลุ่มเยาวชนที่เคลื่อนไหวนั้นให้ประกันตัวออกมาสู่้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกัน น.ส.แพรทองธาร ยังกล่าวถึงการดึงพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ที่มีคะแนนเป็นลำดับที่สาม มาร่วมรัฐบาล โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.นั้น เป็นหน้าที่การพิจารณาของ พรรคก้าวไกล
ทางด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวถึงการรวมบรวมเสียงให้ได้ 376 เสียงนั้น เป็นหน้าที่ของ พรรคแกนนำคือ ก้าวไกล ต้องไปรวบรวมเสียงมาให้ครบ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มีหน้าที่สนบสนุนเท่านั้น แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า วุฒิสมาชิก หรือ ส.ว.ควรยอมรับเจตนารมย์ของประชาชนที่เลือก ก้าวไกล และ เพื่อไทย เป็นพรรคอันดับ1 และ 2 ซึ่งมีเสียงรวมกันได้ที่ 309 เสียง ดังนั้น ส.ว.ควรยอมรับฉันทามติดังกล่าวด้วย.