จับตา กกต. ถกพรรคการเมือง 8 ก.พ.นี้ ชงงบหาเสียงไว้ 2 กรณี หากสภาครบวาระ ส.ส.เขตใช้ 6.5ล้านบาท บัญชีรายชื่อ 152 ล้านบาท ถ้ายุบสภา แบ่งเขต 1.74 ล้านบาท ปาร์ตี้ลิสต์ 40.6 ล้านบาท

วันที่ 6 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดขึ้นในวันพุธที่ 8 ก.พ. ซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อนั้น มีรายงานว่าวงเงินที่สำนักงาน กกต. คิดคำนวณและกำหนดเบื้องต้นเพื่อให้พรรคการเมืองพิจารณา กรณีสภาอยู่ครบวาระที่พระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561มาตรา 64 (1) กำหนดให้คิดคำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปในช่วง 180 วันก่อนวันที่ กกต. ประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้งนั้น กกต.จึงกำหนดว่าผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งใช้จ่ายได้คนละ 6,528,375 บาท และแบบบัญชีรายชื่อหรือพรรคการเมืองใช้จ่ายได้ 152,327,758 บาท

ส่วนถ้าเป็นกรณียุบสภา ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ใช้จ่ายได้คนละ 1,740,900 บาท และแบบบัญชีรายชื่อหรือพรรคการเมืองใช้จ่ายได้ 40,620,999บาท โดยก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 2565 กกต. ได้มีหนังสือแจ้งข้อมูลดังกล่าว เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากทุกพรรคการเมือง โดยส่วนใหญ่มีหนังสือตอบกลับมาว่าเห็นด้วยกับวงเงินค่าใช้จ่ายที่ กกต. กำหนด ซึ่งหลังจาก กกต. หารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองในวันดังกล่าวจนได้ข้อสรุปแล้วก็จะมีการประชุม และ ออกประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายของผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคนและของพรรคการเมือง

อย่างไรก็ตามในการประชุมวันดังกล่าว ยังจะมีการหารือเกี่ยวกับการปิดประกาศและการติดแผ่นป้ายหาเสียงเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์การจัดเวทีประชันนโยบายบริหารประเทศสำหรับพรรคการเมืองและการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองประจำปี 2566 ด้วย.