รองหน.พรรคปชป. เผยเบื้องหลัง “จุรินทร์” จี้ นายกฯ “ปรับครม.” หวั่นละเลยมติพรรค เตือนระวังเกิดข้อโต้แย้งในวันข้างหน้า วอน “บิ๊กตู่” เข้าใจ เปล่ากดดัน แต่หากยังนิ่งอยู่ อาจมีปัญหาในอนาคต

วันที่ 27 พ.ย.2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทวงถามเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัดส่วนของพรรค คือ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ให้ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า มติของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ มีความสำคัญ มีค่า มีสถานะสูงกว่าความเห็นส่วนบุคคลใด เราอยากเห็นมติพรรคมีออกไปแล้ว เป็นมรรคเป็นผล ในทางปฏิบัติ แต่หลายคนเริ่มวิตกกังวล กลัวว่า จะละเลยความสำคัญของมติพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือส่วนหนึ่งที่ นายจุรินทร์ ออกมาบอกว่า เริ่มมีความอึดอัดในสมาชิกของพรรค และกรรมการบริหารพรรค อย่างน้อยที่สุด ภารกิจที่ตนเคยทำล้วนสำคัญทั้งสิ้นต่อประชาชน ก็อยากให้มีการสานต่อ เรื่องนี้เป็นปัจจัยหลักที่สมาชิกหลายคนเริ่มถามว่า เมื่อไรสิ่งที่พรรคมีมติไปจะได้รับการปฏิบัติ

ต่อข้อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงยังไม่กล้าปรับ ครม.หรือไม่ เพราะแรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังกระชารัฐ (พปชร.) ยังมีอยู่ เช่น อาจจะมีการแยกไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ นายจุรินทร์ ก็คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วว่า ถ้าพรรคอื่นไม่พร้อมที่จะปรับ ก็ปรับเฉพาะของประชาธิปัตย์พรรคเดียว เราก็ไม่ประสงค์ที่จะให้พรรคอื่นกระเพื่อมด้วย พรรคประชาธิปัตย์ก็พอจะเข้าใจปัญหาของแต่ละพรรค

“แต่บังเอิญว่า วันนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีมติไปแล้ว มันไม่ได้รับการปฏิบัติ เดี๋ยวจะเป็นปัญหาหยิบขึ้นมาเป็นข้อโต้แย้งในวันข้างหน้าต่อไปได้ วันนี้ผมไม่อยากให้เป็นประเด็นอื่น อยากให้จำกัดอยู่เฉพาะประเด็นเรื่องการปรับครม.ตามมติของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่พรรคเห็นว่าควรจะมีคนมาทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยแทนผม ที่เคยทำก่อนหน้านี้” อดีต รมช.มหาดไทย กล่าว

เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการตั้งใจกดดันตัว พล.อ.ประยุทธ์ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้กดดัน แต่หวังว่านายกฯจะเข้าใจบริบทของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามย้ำว่า ถ้าหากนายกฯ ยังไม่สนใจมติพรรคประชาธิปัตย์อีกจะทำอย่างไร นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องในอนาคตถึงเวลานั้น ก็ค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง แต่ตนยังเชื่อว่านายกฯ น่าจะเห็นความสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงท้ายๆ ของรัฐบาลที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือน แต่ว่าทุกวันทุกเวลาปัญหาของประชาชนต้องมีคนดูแล.