เพื่อไทยลั่น! ถึงเวลาล้างบางสแกมเมอร์ชายแดน เสนอ 7 ม.กดดันกัมพูชา

พรรคเพื่อไทย เสนอมาตรการ 7 ข้อ จี้รัฐบาลใช้แรงหนุนจากสหรัฐ–เกาหลีใต้ ปราบขบวนการคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก ย้ำ! ไทยต้องกล้าชี้ชัดบนเวทีโลก ไม่ใช่แค่ทำตามกระแส
วันนี้ (16 ต.ค. 68) เวลา 13.00 น. ที่อาคารรัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีดีอี พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงเรียกร้องรัฐบาลเร่งจัดการปัญหาแก๊งสแกมเมอร์
เพื่อคุ้มครองประชาชนและรักษาความมั่นคงชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า ปัญหานี้เคยได้รับการแก้ไขในรัฐบาลก่อน แต่กลับรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ อังกฤษ และเกาหลีใต้ ที่เดินหน้าปราบอาชญากรรมไซเบอร์อย่างจริงจัง ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงเสนอ “7 มาตรการเร่งด่วน” ได้แก่…
1. ดำเนินการ “3 ตัด” — ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดการขนส่ง เพื่อสกัดเครือข่ายสแกมเมอร์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
2. ปิดช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด ป้องกันการหลอกลวงและการลักลอบเข้าออกประเทศ
3. ตั้งศูนย์ร่วมระดับภูมิภาค ร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านปราบคอลเซ็นเตอร์–ค้ามนุษย์
4. ผลักดันให้กัมพูชายอมรับ “4 เงื่อนไข” ตามมติ สมช. สมัยรัฐบาลแพทองธาร และนำเข้าสู่การลงนาม Peace Agreement ในการประชุมอาเซียนซัมมิต 26 ต.ค. นี้
5. เร่งระงับบัญชีม้าและซิมเชื่อมโมบายแบงก์กิ้งที่ พิสูจน์แล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
6. เรียกประชุมคณะกรรมการปราบอาชญากรรมไซเบอร์ และออกกฎหมายลูกให้สอดคล้อง พ.ร.ก.
และ 7.ฟื้นศูนย์ AOC 1441 ให้เป็น One Stop Service ช่วยผู้เสียหายออนไลน์อย่างเร่งด่วน
แกนนำพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า การปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ควรเป็น “ยุทธศาสตร์แห่งชาติ” เพื่อกดดันรัฐบาลกัมพูชาให้ร่วมมือ ไม่ใช่ทำเพียงเพื่อภาพลักษณ์ทางการเมือง เพราะวันนี้โลกจับตามอง โดยเฉพาะสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่เดินหน้ากดดันกัมพูชาอย่างจริงจัง รัฐบาลไทยควรใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืนร่วมกับประชาคมโลก
พรรคเพื่อไทยยังเรียกร้องให้เร่งสอบผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายที่ใช้พื้นที่ชายแดน เป็นฐานปฏิบัติการและพิจารณามาตรการขั้นเด็ดขาด เช่น การตัดสัญญาณหรือไฟฟ้าในพื้นที่ต้องสงสัยหากดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีอย่างเหมาะสม ท้ายสุด พรรคเพื่อไทยแสดงความกังวลต่อการนิ่งเงียบของนายกรัฐมนตรี ที่มักบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างตรงไปตรงมา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงอย่างโปร่งใส และแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์และความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริง.