ไว้ใจยาก!!!

“ไทย–กัมพูชา” กับเกมหยุดยิงที่ไร้ความไว้วางใจ??? แม้การประชุมบนเวที GBC ที่มาเลเซีย เมื่อ 7 ส.ค. 2568 จะสิ้นสุดลง! ภายใต้เงื่อนไข “หยุดยิงอย่างเคร่งครัด!” สิ่งนี้ จะเป็นเพียง…สันติภาพชั่วคราว หรือหยุดยิงเพื่อรบใหม่หรือไม่? เพราะสันดานและพฤติกรรมที่ผ่านมาของกัมพูชา ภายใต้เงาของ “ฮุน เซน” มันยากจะให้ไทยและโลกทำใจ…ให้เชื่อใจได้ง่ายๆ
การแถลงผลการประชุมร่วม ภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาในเวที GBC ไทย–กัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมปอร์ ประเทศมาเลเซีย ของ ตัวแทนฝ่ายไทยและกัมพูชา เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (7 สิงหาคม 2568) โดยมีการตกลง…
หยุดยิงอย่างเคร่งครัด ระหว่าง…กองทัพทั้งสองฝ่าย!!!
พร้อมยืนยัน…ให้ทั้ง 2 ฝ่ายคงกำลังในจุดเดิม และให้ อาเซียนส่งผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เข้าพื้นที่ชายแดน
แต่ดูเหมือน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการ รมว.กลาโหม และหัวหน้าคณะเจรจาฯ ฝ่ายไทย คงคิดอะไรในใจ ที่ไม่ต่างจากคนไทยค่อนประเทศ
นั่นคือ…จะไว้วางใจฝ่ายกัมพูชาได้แค่ไหน? และอย่างไร?
เนื่องเพราะพฤติกรรมในอดีตจนถึงปัจจุบัน ล้วน…สับปรับ โกหก ปลิ้นปล้น กระล่อน ตอแหล ไม่อยู่กับร่องกับรอย และไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา
ที่สุด! ฝ่ายกัมพูชา อาจจะเปิดปฏิบัติการทางการทหาร โจมตีประเทศไทย เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นไปได้
นาทีนี้ ฝ่ายไทยคงคิดไม่ต่างกัน นั่นคือ…ข้อตกลงล่าสุด มันมิต่างจากการ “หยุดยิง” บนความหวาดระแวง!!!
สำหรับเนื้อหาของบันทึกข้อตกลงในรอบนี้ มีอะไรบ้าง? สรุปให้ฟังคร่าวๆ จากการเจรจาบนโต๊ะระหว่าง “ไทย–กัมพูชา” ที่ต่างก็เห็นพ้อง 5 ประเด็นสำคัญ คือ…
- หยุดยิงอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมอาวุธทุกประเภท ไม่เสริมกำลังใหม่
- ผู้สังเกตการณ์อาเซียน นำโดยมาเลเซีย เข้าสังเกตการณ์พื้นที่ชายแดน
- งดการยั่วยุและข่าวเท็จ เพื่อสร้างบรรยากาศเอื้อต่อการพูดคุย
- ปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่น การส่งกลับเชลยศึกตามอนุสัญญาเจนีวา
- รักษาช่องทางพูดคุย ผ่านกลไกทวิภาคี เช่น RBC, GBC เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
ก็อย่างที่เกริ่นในตอนตั้น แม้เนื้อหาเหล่านี้ดูดีและมีทิศทางสร้างสันติภาพ แต่คำถามสำคัญคือ…
“คนไทยควรเชื่อมั่นกัมพูชาหรือไม่?”
เพราะก่อนหน้านี้ เป็นฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เคยเคารพข้อตกลงใดๆ ข้อพิสูจน์ที่ยืนยันได้ นั่นคือ…การประกาศหยุดยิงก่อนหน้านี้ (28 กรกฎาคม 2568) ฝ่ายกองทัพไทย…ยืนยัน “หยุดยิง” ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 แต่ฝ่ายกัมพูชายังส่งโดรนลาดตระเวน และมีการเสริมกำลังในบางจุด
ที่สำคัญ…มีการยิงใส่ไทยในบางพื้น และบางห้วงเวลา
กระนั้น กองทัพไทย…เลือกใช้ความอดกลั้น ตอบโต้เฉพาะกรณีป้องกันตนเอง
เหตุที่คนไทยไม่เชื่อใจฝั่งกัมพูชา นั่นเพราะ…ตลอดเวลาที่ผ่านมา กัมพูชาได้เผยแพร่ข่าวเท็จโจมตีไทยอยู่ตลอดเวลา โดย ใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาที่ว่า…
ไทยเป็นฝ่ายที่รุกรานกัมพูชาก่อน
กองทัพไทยใช้อาวุธเคมี
รัฐบาลไทยวางแผนสังหารผู้นำกัมพูชา (นายฮุน เซน)
ไทยทำลายโบราณสถาน
ไทยล้ำแดนและยึดพื้นที่ของกัมพูชา
ไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน – ใช้กำลังกับพลเรือน
รัฐบาลไทยไร้ศีลธรรม – ล่าอาณานิคมใหม่
ไทยบิดเบือนเวทีโลก – กดดันองค์กรสากล
สารพัดจะกล่าวหาและให้ร้าย…
มีการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวเท็จอย่างต่อเนื่อง…ทั้งในและนอกประเทศกัมพูชา ปูทางไปสู่การปลุกกระแส “ชาตินิยม” แบบบิดเบือน ภายใต้คำสั่งการของ นายฮุน เซน
แม้ นายฮุน มาแนต จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนบิดา แต่ว่า…โครงสร้างอำนาจทางทหารและการเมืองยังอยู่ในมือของ นายฮุน เซน อย่างเหนียวแน่น
ล่าสุด ชัดเจนจากการที่ กษัตริย์ “นโรดม สีหมุนี” แห่งกัมพูชา มอบอำนาจและสิทธิขาดบนแผ่นดินนี้ ให้กับ นายฮุน เซน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มันสะท้อนว่า…รัฐบาลกัมพูชา เป็น เผด็จการอำนาจนิยม ไม่มีฝ่ายค้านที่แท้จริง และยังคงใช้ยุทธศาสตร์หลักแก้ปัญหาคะแนนนิยมตกต่ำ นั่นคือ…
ใช้ความขัดแย้งภายนอกเพื่อกลบปัญหาภายใน
ไม่แปลกหากฝ่ายไทย รวมถึงอีกหลายฝ่าย จะกังวลต่อพฤติกรรมของกัมพูชาในทำนอง…การเจรจาครั้งนี้อาจเป็นเพียง “การหยุดเพื่อเตรียมเปิดศึกอีกครั้ง!!!”
ลองฟังเสียงจากนานาชาติ เริ่มจาก…อาเซียน! โดย มาเลเซีย ย้ำว่า…ไทย–กัมพูชา ควรแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ขณะที่ สหรัฐอเมริกาและจีน ทำได้เพียงแค่…เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ระดับทูตเท่านั้น ยืนยัน…จะไม่ส่งกำลัง และไม่ก้าวก่าย แต่พร้อมสนับสนุนด้านมนุษยธรรม
ความหมายคือ ทั้งโลกจับตา…แต่ไม่ยื่นมือทันที!!??
บทเรียนสำคัญจากภาวะ…สันติภาพที่ไม่มีความไว้ใจ ย่อมไม่ยั่งยืน! แม้บรรยากาศการเจรจาจะดูดี แต่ความไว้ใจยังต่ำมาก สิ่งที่ฝ่ายไทยต้องตระหนัก คือ…
อดีตคือเครื่องชี้อนาคต และกัมพูชาเคย “ไม่รักษาคำพูด” มาหลายครั้ง และ สงครามไม่ได้เกิดเพราะไม่คุยกัน แต่เกิดเพราะไม่ไว้ใจกัน!!!
บทสรุป ณ บรรทัดนี้ ก็ต้องย้ำว่า…สันติภาพที่ยั่งยืน ทุกฝ่ายต้องมากกว่าคำพูด???
“ไทย–กัมพูชา เป็นเพื่อนบ้านที่ย้ายหนีกันไม่ได้ แต่หากไม่มีความไว้วางใจ…เราก็เป็นได้แค่ศัตรูที่อยู่ติดกัน”
การเจรจาหยุดยิงครั้งนี้ อาจเป็น “โอกาสสุดท้าย” หากฝ่ายกัมพูชายังใช้วิธีเดิม ๆ เช่น เสริมกำลัง ละเมิดคำมั่น ปลุกกระแสข่าวเท็จ…
สันติภาพที่เราหวัง คงไม่ต่างจากการ “วาดภาพบนอากาศ” ก็เท่านั้น!!!.